เปิดประวัติ'ปรีชาพล พงษ์พานิช' หน.พรรคไทยรักษาชาติ
การเมือง
Webmaster
2019-02-09 14:35:00
40
Webmaster
2019-02-09 14:35:00
40
-
สนับสนุนเนื่อหา
จากกรณี นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฎิรูป เข้ายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาและวินิจฉัยการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ ว่าเข้าข่ายขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า ด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้าม ในการหาเสียงเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 จึงปรากฏชื่อ ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช บนสื่อทั่วฟ้าเมืองไทย รวมทั้งต่างประเทศ เพราะปัจจุบันเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 61 โดยในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ระบุประวัติ ร้อยโทปรีชาพล มีชื่อเล่นว่า ป๋อม เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 23 ตอนนี้อายุ 38 ปี เป็นบุตรชายของ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช กับ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เช่นเดียวกัน
จากนั้น ร้อยโทปรีชาพล เข้ารับราชการทหารติดยศร้อยตรี ประจำสำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม และได้ย้ายมาช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งที่บิดาได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่อมาในปี 50 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ขอนแก่น เขต 2 สังกัดพรรคพลังประชาชน โดยการสนับสนุนของ นายเสริมศักดิ์ และ นางระเบียบรัตน์ จนได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. ด้วยอายุเพียง 27 ปี ซึ่งนับเป็น ส.ส.ชายที่มีอายุน้อยที่สุด
ต่อจากนั้นในปี 53 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ ส.ส. 6 คน พ้นสมาชิกภาพ กรณีถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อและบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานของรัฐ ซึ่ง ร้อยโทปรีชาพล เป็น 1 ใน ส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิ์ แต่ก็สามารถกลับเข้ามาเป็น ส.ส.ได้อีกครั้งในการเลือกตั้งซ่อม จากนั้นในการเลือกตั้งปี 54 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ขอนแก่น และได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคมของสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ยังระบุว่าเคยเข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ได้แก่ เมื่อปี 55 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม), ปี 54 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.), ปี 52 ประถมาภรณ์มงกุฏไทย (ป.ม.) และปี 51 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
ขอบคุณข้อมูล วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากนั้น ร้อยโทปรีชาพล เข้ารับราชการทหารติดยศร้อยตรี ประจำสำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม และได้ย้ายมาช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งที่บิดาได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่อมาในปี 50 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ขอนแก่น เขต 2 สังกัดพรรคพลังประชาชน โดยการสนับสนุนของ นายเสริมศักดิ์ และ นางระเบียบรัตน์ จนได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. ด้วยอายุเพียง 27 ปี ซึ่งนับเป็น ส.ส.ชายที่มีอายุน้อยที่สุด
ต่อจากนั้นในปี 53 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ ส.ส. 6 คน พ้นสมาชิกภาพ กรณีถือครองหุ้นในธุรกิจสื่อและบริษัทที่เป็นคู่สัมปทานของรัฐ ซึ่ง ร้อยโทปรีชาพล เป็น 1 ใน ส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิ์ แต่ก็สามารถกลับเข้ามาเป็น ส.ส.ได้อีกครั้งในการเลือกตั้งซ่อม จากนั้นในการเลือกตั้งปี 54 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ขอนแก่น และได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคมของสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ยังระบุว่าเคยเข้ารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ได้แก่ เมื่อปี 55 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม), ปี 54 เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.), ปี 52 ประถมาภรณ์มงกุฏไทย (ป.ม.) และปี 51 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
ขอบคุณข้อมูล วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
