ข่าวลุ้นจันทร์นี !'กกต.'ตั้งแท่นถกปม'ทษช.' - kachon.com

ลุ้นจันทร์นี !'กกต.'ตั้งแท่นถกปม'ทษช.'
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงการพิจารณาคุณสมบัติบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ โดยระบุเพียงว่า ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ ทางคณะกรรมการ กกต.จะประชุมคาดว่า จะมีการหารือในทุกเรื่อง รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้มีปัญหาทางข้อกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ของ กกต. ว่าจะสามารถพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองได้หรือไม่ เนื่องจากฎหมายได้กำหนดให้กกต.ประกาศเพียงรายชื่อผู้ที่พรรคการเมืองเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น นอกจากนั้นอาจจะมีการพิจารณากรณีการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติด้วย โดยอาจมีการพิจารณา 2 แนวทาง คือ1.พิจารณาตามคำร้องของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ว่าการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติเป็นการฝ่าฝืนระเบียบ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงฯ ตามข้อ 17 ที่ระบุว่า“ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง”หรือไม่ หาก กกต.พิจารณาว่าเข้าข่าย จึงจะมีการพิจารณาต่อไปว่า เป็นการกระทำผิดตามมาตรา 92 (1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ (2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่ ทั้งนี้หากที่ประชุม กกต.มีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคไทยรักษาชาติ กระทำการที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92กรณีใดกรณีหนึ่ง ก็สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคได้

และแนวทางที่ 2. กกต.อาจจะพิจารณาตั้งเรื่องพิจารณาโดยไม่ต้องรอให้มีผู้มายื่นเรื่องร้องเรียน โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 มาตรา41ที่ระบุว่า “เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อคณะกรรมการไม่ว่าโดยทางใดไม่ว่าจะมีผู้แจ้งหรือผู้กล่าวหาหรือไม่ ถ้ามีหลักฐานพอสมควรหรือมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนต่อไปว่ามีการกระทำใดอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือจะมีผลให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย คณะกรรมการมีหน้าที่ต้องดำเนินการให้มีการสืบสวน หรือไต่สวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานโดยพลัน…” เพื่อพิจารณาว่าการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560มาตรา92 (1)(2)หรือไม่ หาก กกต.เห็นว่ามีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคไทยรักษาชาติเข้าข่ายความผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามมาตรา92ก็สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคได้

อย่างไรก็ตามที่น่าสังเกตคือ กกต.จะสามารถรวมรวมพยานหลักฐานจนสามารถพิจารณาว่าการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติในกรณีดังกล่าว เพียงพอที่จะเชื่อมโยงความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560มาตรา92 (1)(2) ได้อย่างชัดเจนได้หรือไม่.