แนะรัฐปฏิรูปภาษีแก้ปัญหาพวกหลบเลี่ยง
การเมือง
ด้านนางผาสุก พงษ์ไพจิตร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า การทำรัฐสวัสดิการให้ได้ คือรัฐต้องมีแหล่งรายได้หลักที่ชัดเจนและภาวะเศรษฐกิจที่เติบ ซึ่งในส่วนของรายได้หลักสิ่งที่ต้องทำคือการปฏิรูประบบการเก็บภาษีของประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มไม่ แต่ที่ต้องทำคืออุดช่องโหว่ไม่ให้เกิดการหลีกเลี่ยงภาษี แต่ขยายเพิ่มจำนวนคนจ่ายให้ครอบคลุ่มคนที่รายได้ที่ต้องเสียภาษี รวมถึงมีอัตรการจัดเก็บในอัตราก้าวหน้า เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เมื่อมีการปฏิรูปการเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีรายได้ไปทำรัฐสวัสดิการ หนุนแก่ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน อย่างไรก็ตาม มองว่าความยากของเรื่องนี้มี 2 ส่วนคือ 1. ปัจจัยภายนอก มีบรรษัทต่างชาติเข้ามาค้าขายในไทยจำนวนมา แต่มีการตั้งบริษัทผลิตในประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ ทำให้ประเทศไทยไม่ได้อพะไรตรงนี้ ซึ่งจริงๆ ประเทศยุโรปพยายามผลักดันให้มีการกระจายการเสียภาษีมายังประเทศที่มีการไปเปิดบริษัทสาขาในประเทศต่างๆ ด้วย และ 2.ปัจจัยภายในจากการปฏิรปภาษี ซึ่งเข้าใจว่าคนบางกลุ่มไม่อยากให้ปรับเปลียน เพราะต้องกรคงฐานะของตัวเองเอาไว้ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การปล้นคนรวยช่วยคนจน เพราะเป็นการทำรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า นอกจากนี้ต้องยกเลิกระบบอุปถัมภ์ แต่การเกื้อกูลกันต้องยังอยู่ ขจัดคอรัปชั่น คิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องแข่งขันกันนำเสนอ ซึ่งมีหลายโมเดล แต่ย้ำว่าต้องทำแบบถ้วนหน้าครอบคลุ
ด้านนายเดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกทำให้คนชั้นกลางอยู่ยากไปผลักภาระให้ต้องดิ้นรน มีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ทั้งด้านการศึกษาของลูกหลาน ด้านสาธารณสุข และปัจจัยสี่ ที่รัฐไม่ได้ควบคุมมาตรฐาน ขณะเดียวอาชีพ สำหรับคนชั้นกลางหดตัว ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ทุกคนตอ้งสร้างหลักประกันให้คนเอง ซึ่งไม่มีอะไรดีกว่าการผลักดันให้สร้างรัฐสวัสดิการที่รัฐต้องดูแลทุกคนบนมาตรฐานเดียวกัน ดีกว่าซื้อประกันเอกชนหรือดิ้นรนให้มีรายได้มากขึ้น เพียงทุกคนเปลี่ยนแนวคิดการจ่ายภาษีเพิ่ม หรือถูกตัดสิทธิการลดหย่อนในกองทุน เช่น แอลทีเอฟ เป็นต้น แต่เรื่องนี้จะสร้างหลักประกันและความมั่นใจได้ว่านี่เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ทุกคนไปพร้อมกัน มีความเสี่ยงน้อย มั่นคงทุกด้านได้เอาเงินคนรวย ให้คนจน หรือคนช้นกลางต้องทำงานหนัก เพราะจริงๆ แล้วจากการศึกษาพบว่าคนจนต้องเสียภาษีสูงกว่าคนรวย เช่น ภาษีจากการซื้อน้ำมัน
ขณะที่นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากการศึกษาเรื่องรัฐสวัสดิการมาตลอด มีความเชื่อมั่นบนฐานข้อมูลว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะสร้างรัฐสวัสดิการโดยไม่ได้เป็นการขายฝัน สามารถทำได้วันนี้พรุ่งนี้ด้วยซ้ำ เพราะประเทศไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี หากปฏิรูประบบภาษีในอัตราก้าวหน้า จะมีรายได้เข้ารัฐจำนวนมาก แต่คนที่ร่ำรวย เป็นผู้มีอิทธิพล อำนาจทางกาารเงิน พยายามเบี่ยงเบนให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ เพิ่มภาระให้คนทำงาน เป็นการอุ้มคนจน แต่หากเราเก็บภาษีคนพวกนี้ให้มีเสียเบาลง เสียงคนทั่วไปก็จะดังขึ้น เช่น สวัสดิการประเทศยุโรปที่มีคนพยายามสร้างภาพว่ารัฐสวัสดิการจะล้ม แต่นักวิชาการประเทศนั้นๆ มองว่าเป็นเหมือนไฟฟ้า น้ำประปา ที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นยกเลิกไม่ได้ มีแต่พัฒนาให้ดีขึ้น.