ข่าวภาคปชช.ชงกระจายอำนาจ-องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อม - kachon.com

ภาคปชช.ชงกระจายอำนาจ-องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อม
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)  คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ร่วมกับคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ศูนย์ศึกษพลเมืองภิวัฒน์ จัดสัมมนาสาธารณะครั้งที่ 3 สมัชชาประชาชนเพื่อกำหนดทิศทางประเทศ ในหัวข้อ “สมัชชาประชาชนพลิกฟื้นประเทศไทย” โดยนายศักดิ์ณรงค์ มงคล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวในหัวข้อการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันปัญหาท้องถิ่นไม่ได้รับการแก้ไขและเป็นปัญหาที่ละเลยไม่ได้ การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นถ้าตรวจสอบนโยบายพรรคการเมืองน่าเสียใจว่าพรรคการเมืองไม่เข้าใจปัญหาประเทศตัวเองน้อยมาก แต่ไปจับเอาปัญหากระจัดกระจายไม่เห็นปัญหาเส้นเลือดใหญ่ คือ ปัญหาขาดอำนาจต่อรองของประชาชน ซึ่งการกระจายอำนาจนี้ไม่ถึงเนื้อแท้  องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ยังไม่เป็นอิสระ ถูกควบคุมกำกับจากส่วนกลาง ทั้งจากกระทรวงและรัฐบาล ฉะนั้นการกระจายอำนาจที่มีคุณภาพต้องให้อิสระให้อปท.ตัดสินใจกำหนดทิศทางการพัฒนาแก้ไขปัญหาของตัวเอง เพื่อให้เชื่อมโยงเป็นเนื้อเดียวกับประชาชน และสามารถต่อรองกับส่วนกลางได้

ด้านนายกษิต ภิรมย์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพลเมืองภิวัฒน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า การจะมีธรรมาภิบาลได้นั้น นักการเมือง รวมถึงระดับท้องถิ่นด้วย และข้าราการจะต้องมีจิตสำนึกเพราะเป็นเรื่องสำคัญ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ต้องตรวจสอบข้าราชการและปลูกฝั่งข้าราชการที่จะเข้ามาในระบบตั้งแต่เริ่มแรก ทั้งนี้ ตนจึงอยากเสนอให้มีองค์การจัดซื้อจัดจ้างเพียง 1 องค์การเท่านั้น อาจจะสังกัดกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ก็ได้เพื่อทำการจัดซื้อจัดจ้างให้หน่วยงานราชการ โดยดูรูปแบบองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รวมถึงห้ามนายกฯและรัฐมนตรีลงนามอนุมัติการจัดซื้อจัดจ้าง ให้ดูเรื่องนโยบายเท่านั้น เพราะเป็นนักการเมือง จะทำให้การปราบปรามทุจริตมีความคืบหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ควรเคลียร์คดีในมือและทำให้เสร็จสิ้น การต่อต้านคอร์รัปชั่นให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น

ขณะที่นายศิวัช พงษ์เพียจันทร์ กล่าวในหัวข้อ "แนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นในเมืองไทยอย่างยั่งยืน" ตอนหนึ่งว่า จากนี้พรรคการเมืองต้องมีเสนอกฎหมายที่ไม่ใช่กฎหมายฉบับใหม่เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น คือ กฎหมายอากาศสะอาด ซึ่งจะต้องไม่ใช่กฎหมายสิ่งแวดล้อมแบบเดิมอีกแล้ว รวมถึงจะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้มาทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คือ องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพราะเรื่องนี้เป็นเผือกร้อนที่ทุกคนผลักออก อ้างว่าถือกฎหมายคนละฉบับ จึงไม่มีการใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร.