ว่าที่ผู้สมัคร'พปชร.-พท.'ซัดกันนัว แจ้งเอาผิดถูกคุกคาม
การเมือง
น.ส.ฐิติภสร์ กล่วว่า ขณะที่อยู่ในพิธีทีมติดตามของว่ามีผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยคอยแอบอยู่บริเวณตรงห้องน้ำ และแอบถ่ายภาพทีมงานที่เป็นคนขับรถตลอดเวลา จึงทำให้ทั้ง 2 คน มีปากเสียงกันเล็กน้อย ต่อมาขณะเดินทางกลับ ตนได้บอกกับว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยว่า การลงพื้นที่หาเสียงควรจะต่างคนต่างทำหน้าที่ อย่าคุกคามคนอื่น อย่าทำการเมืองแบบเก่าๆ แต่ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคเพื่อไทย กลับอ้างว่าผู้ใหญ่ในพรรคส่งมาดู และคอยตามถ่ายภาพเวลาตนลงพื้นที่ เมื่อคุณพ่อได้ยินและทราบเรื่องจึงเดินเข้าไปถาม และต่อว่า ว่าจะส่งชายฉกรรจ์คอยตามถ่ายภาพตนทำไม การทำแบบนี้เหมือนกำลังคุกคาม และไม่ทราบว่าคิดจะทำเรื่องไม่ดีอะไรหรือไม่ ซึ่งขณะที่มีปากเสียงกัน ตนได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางตำรวจแนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวัน จึงเดินทางไปที่ สน.หัวหมาก เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้าน นายตรีรัตน์ หรือ ปุ๊น ศิริจันทโรภาส อายุ 29 ปี ผู้สมัครลงเลือกตั้งเขตบางกะปิ และเขตวังทองหลาง (เฉพาะแขวงพลับพลา) พรรคเพื่อไทย (เบอร์ 5 ) เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อรรถวิทย์ เพชรดี รองสวป.(สอบสวน)สน.หัวหมาก หลังถูกคุกคามข่มขู่ ภายในวัดพระไกรสีห์(น้อย) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ พร้อมกับ กล่าวว่า ขณะที่ตนเองกำลังเสร็จจากร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพคนในพื้นที่ และกำลังเดินทางกลับเพื่อไปหาลงพื้นที่ต่อ ทางผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ น.ส.ฐิติภัสร์ ได้เข้ามาพูดจาไม่ดี ขณะที่ทางนายชัยวุฒิ จริยวิโรจน์สกุล พ่อของน.ส.ฐิติภัสร์ อดีตสก.เขตบางกะปิ พรรคไทยรักไทย ปี 2546 ได้เข้ามาพูดจาลักษณะเดียวกัน พร้อมทั้งนำโทรศัพท์มือถือมาจิ้มที่ท้องของทีมงานตนเอง ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มไปที่ใบหน้าของทีมงานและกล่าวว่า "มึงปากดีนักเหรอ" ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อยากให้เล่นการเมืองกันแบบสร้างสรรค์ นอกจากนี้ก่อนที่จะเดินทางออกมาจากวัด ทางนายชัยวุฒิ ได้เข้ามาเพื่อขอดูโทรศัพท์ของทีมงานที่ถ่ายภาพ เพราะคิดว่าพวกตนไปถ่ายภาพของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ทั้งที่เป็นภาพของตนที่นั่งมาร่วมงานศพ ตนจึงเดินมาแจ้งความเพื่อลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และทราบภายหลังว่าทางคู่กรณีได้มาลงประจำวันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว