'อุตตม'เตรียมดูข้อก.ม.ปูทาง'ลุงตู่'ช่วยหาเสียง
การเมือง
Webmaster
2019-02-12 10:14:00
19
Webmaster
2019-02-12 10:14:00
19
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่สวนเบญจสิริ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจสอบการยื่นบัญชีนายกฯของพรรค พปชร.ผิดขั้นตอนตามข้อบังคับของพรรคว่า พรรคไม่มีความกังวลใดๆ เพราะฝ่ายกฎหมายได้ดำเนินการถูกต้องทุกขั้นตอน ยืนยันว่าไม่มีการกระทำที่ขัดต่อระเบียบและกฎหมาย ทั้งนี้ ทราบกันดีว่านายเรืองไกรนั้นมาตามนัด เช่นเดียวกับที่ยื่นร้องในหลายเรื่อง ส่วนที่ระบุว่าอาจจะขัดรัฐธรรมนูญเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นั้น ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่ามีตำแหน่งดังกล่าวแล้ว จะอยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคไม่ได้
นายอุตตม กล่าวว่า ขณะนี้พรรค พปชร.กำลังหารือและดูข้อกฎหมายกันอยู่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถมาช่วยพรรคหาเสียงได้หรือไม่ โดยต้องดูข้อกฎหมายอย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้ใครพูดได้ว่าเราเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น เพราะเป็นเรื่องปกติที่เมื่อเราเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคแล้ว เราก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีส่วนกับพรรคในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านนโยบาย การรณรงค์หาเสียง ฯลฯ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดูนโยบายของพรรคแล้ว ก็ได้ให้คำแนะนำในหลายเรื่อง เช่น นโยบายของกรุงเทพฯ ในการจัดการมลพิษ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป็นต้น
นายอุตตม กล่าวว่า หลังจากที่พรรค พปชร.มีความชัดเจนในการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีตอนนี้กระแสของพรรคดีวันดีคืน ส่วนจะดีอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันเลือกตั้งเลยหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ว่าพรรคจะสามารถ นำเสนอชี้แจงนโยบายต่อประชาชนได้ดีแค่ไหน และการลงพื้นที่ของผู้สมัคร จะสามารถทำให้ประชาชนทราบได้หรือไม่ว่า เรามีความพร้อมในทุกด้าน ซึ่งเราจะทำอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า จากสถานการณ์ของพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) จะถือว่าเป็นผลบวกต่อพรรค พปชร. นายอุตตม กล่าวว่า จุดยืนของพรรค พปชร.คือทำงานต่อไป โดยไม่มีวอกแวก โดยจะเดินหน้าเข้าถึงพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด อะไรจะเกิดขึ้นกับพรรคอื่นนั้น ส่วนตัวไม่ขอให้ความเห็น ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ เราไม่ได้เอาเรื่องนี้มาคิดคำนวณในสมการของเรา เพราะกระแสของเราจะดีหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเรา
เมื่อถามว่า ตอนนี้หลายฝ่ายจับตาดูว่าจะมีรัฐประหารอีกหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เชื่อว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่ประชาธิปไตย ซึ่งพรรค พปชร.ยืนยันว่าต้องเป็นประชาธิปไตยของคนไทยทุกคน เชื่อว่าการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม
เมื่อถามว่า ตอนนี้ในการหาเสียงของผู้สมัคร มีการกระทบกระทั่งกันและมีการทำลายป้ายหาเสียงหลายพื้นที่ นายอุตตม กล่าวว่า หากเป็นความจงใจทำผิดกฏหมาย เราพร้อมที่จะดำเนินการตามกฏหมาย แต่อยากเชิญชวนให้ทุกพรรคการเมือง ร่วมกันสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งที่คนไทยอยากเห็น ไม่ใช่บรรยากาศการทำลายล้างและความแตกแยก ไม่อยากให้คนไทยมองว่าเรากำลังจะถอยหลังไปสู่สิ่งเดิมๆ
อย่างไรก็ตามช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอุตตม ,นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค ,นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค ร่วมเปิดนโยบายสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร โดยก่อนเริ่มแถลงข่าว นายอุตตมได้ทดลองขับรถตุ๊กๆไฟฟ้า หรือรถอีวี ขณะที่นายณัฐพลและนายพุทธิพงษ์ ขับรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน
นายอุตตม กล่าวว่า นโยบายของพรรคสามารถทำได้จริง ทำได้ทันที และเห็นเป็นรูปธรรม โดยนโยบายแรกคือ นโยบาย50สวน50เขต สร้างพื้นที่สีเขียวไปสู่ชุมชนให้ปอดสะอาด ,รณรงค์ให้นำรถไฟฟ้าหรือรถอีวี มาใช้ในระบบขนส่งสาธารณะ เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับประชาชนมากขึ้น และยังลดมลพิษในกทม.ทำให้คนกรุงเทพฯมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเบื้องต้นอาจนำร่องในหน่วยงานของรัฐ และเพื่อใช้ประโยชน์ในการท่องเที่ยว ,ฝ นโยบายพักกรุงเทพฯ5/2 โดยพักการก่อสร้าง5วัน ให้ดำเนินการก่อสร้าง5วันและหยุดก่อสร้าง2วัน โดยนโยบายเหล่านี้เป็นการขอความร่วมมือเพื่อให้กรุงเทพฯมีสภาพแวดล้อมที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า พรรคพปชร. ไม่ได้ออกนโยบายในกระดาษ แต่มาจากการรับฟัง เช่น นโยบายพักกรุงเทพ ฯ5/2 จะขอความร่วมมือกับการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ก่อสร้างมาตลอดทุกวันส่งผลจนเกิดวิกฤตเรื่องสิ่งแวดล้อม ขณะที่ผู้รับเหมาซึ่งได้ประโยชน์มาแล้วควรให้ความร่วมมือคืนสุขภาพที่ดีให้กับสังคมบ้าง ขณะที่นโยบาย50เขต 50สวน พรรคจะสนับสนุนให้แต่ละเขตใน
กทม.มีพื้นในการออกกำลังกายบ้าง ขณะที่การรณรงค์นำรถไฟฟ้ามาใช้นั้นจะมีแคมเปญเอาลดเก่ามาแลกรถอีวีได้ส่วนลด1แสนบาท รวมทั้งต้องดูมาตรการเรื่องภาษีเพื่อให้รถมีราคาถูก และสามารถทำโครงการตั้งกองทุนหมุนเวียน ทั้งนี้พรรคได้ตั้งครม.กทม.พปชร.เพื่อหารือและจะเปิดนโยบายต่างๆทุกวันอังคารจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง.
นายอุตตม กล่าวว่า ขณะนี้พรรค พปชร.กำลังหารือและดูข้อกฎหมายกันอยู่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถมาช่วยพรรคหาเสียงได้หรือไม่ โดยต้องดูข้อกฎหมายอย่างรัดกุม เพื่อไม่ให้ใครพูดได้ว่าเราเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น เพราะเป็นเรื่องปกติที่เมื่อเราเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคแล้ว เราก็อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีส่วนกับพรรคในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านนโยบาย การรณรงค์หาเสียง ฯลฯ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดูนโยบายของพรรคแล้ว ก็ได้ให้คำแนะนำในหลายเรื่อง เช่น นโยบายของกรุงเทพฯ ในการจัดการมลพิษ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป็นต้น
นายอุตตม กล่าวว่า หลังจากที่พรรค พปชร.มีความชัดเจนในการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีตอนนี้กระแสของพรรคดีวันดีคืน ส่วนจะดีอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันเลือกตั้งเลยหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ว่าพรรคจะสามารถ นำเสนอชี้แจงนโยบายต่อประชาชนได้ดีแค่ไหน และการลงพื้นที่ของผู้สมัคร จะสามารถทำให้ประชาชนทราบได้หรือไม่ว่า เรามีความพร้อมในทุกด้าน ซึ่งเราจะทำอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า จากสถานการณ์ของพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) จะถือว่าเป็นผลบวกต่อพรรค พปชร. นายอุตตม กล่าวว่า จุดยืนของพรรค พปชร.คือทำงานต่อไป โดยไม่มีวอกแวก โดยจะเดินหน้าเข้าถึงพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด อะไรจะเกิดขึ้นกับพรรคอื่นนั้น ส่วนตัวไม่ขอให้ความเห็น ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ เราไม่ได้เอาเรื่องนี้มาคิดคำนวณในสมการของเรา เพราะกระแสของเราจะดีหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเรา
เมื่อถามว่า ตอนนี้หลายฝ่ายจับตาดูว่าจะมีรัฐประหารอีกหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เชื่อว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่ประชาธิปไตย ซึ่งพรรค พปชร.ยืนยันว่าต้องเป็นประชาธิปไตยของคนไทยทุกคน เชื่อว่าการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม
เมื่อถามว่า ตอนนี้ในการหาเสียงของผู้สมัคร มีการกระทบกระทั่งกันและมีการทำลายป้ายหาเสียงหลายพื้นที่ นายอุตตม กล่าวว่า หากเป็นความจงใจทำผิดกฏหมาย เราพร้อมที่จะดำเนินการตามกฏหมาย แต่อยากเชิญชวนให้ทุกพรรคการเมือง ร่วมกันสร้างบรรยากาศการเลือกตั้งที่คนไทยอยากเห็น ไม่ใช่บรรยากาศการทำลายล้างและความแตกแยก ไม่อยากให้คนไทยมองว่าเรากำลังจะถอยหลังไปสู่สิ่งเดิมๆ
อย่างไรก็ตามช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอุตตม ,นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค ,นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค ร่วมเปิดนโยบายสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร โดยก่อนเริ่มแถลงข่าว นายอุตตมได้ทดลองขับรถตุ๊กๆไฟฟ้า หรือรถอีวี ขณะที่นายณัฐพลและนายพุทธิพงษ์ ขับรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน
นายอุตตม กล่าวว่า นโยบายของพรรคสามารถทำได้จริง ทำได้ทันที และเห็นเป็นรูปธรรม โดยนโยบายแรกคือ นโยบาย50สวน50เขต สร้างพื้นที่สีเขียวไปสู่ชุมชนให้ปอดสะอาด ,รณรงค์ให้นำรถไฟฟ้าหรือรถอีวี มาใช้ในระบบขนส่งสาธารณะ เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับประชาชนมากขึ้น และยังลดมลพิษในกทม.ทำให้คนกรุงเทพฯมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเบื้องต้นอาจนำร่องในหน่วยงานของรัฐ และเพื่อใช้ประโยชน์ในการท่องเที่ยว ,ฝ นโยบายพักกรุงเทพฯ5/2 โดยพักการก่อสร้าง5วัน ให้ดำเนินการก่อสร้าง5วันและหยุดก่อสร้าง2วัน โดยนโยบายเหล่านี้เป็นการขอความร่วมมือเพื่อให้กรุงเทพฯมีสภาพแวดล้อมที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า พรรคพปชร. ไม่ได้ออกนโยบายในกระดาษ แต่มาจากการรับฟัง เช่น นโยบายพักกรุงเทพ ฯ5/2 จะขอความร่วมมือกับการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ก่อสร้างมาตลอดทุกวันส่งผลจนเกิดวิกฤตเรื่องสิ่งแวดล้อม ขณะที่ผู้รับเหมาซึ่งได้ประโยชน์มาแล้วควรให้ความร่วมมือคืนสุขภาพที่ดีให้กับสังคมบ้าง ขณะที่นโยบาย50เขต 50สวน พรรคจะสนับสนุนให้แต่ละเขตใน
กทม.มีพื้นในการออกกำลังกายบ้าง ขณะที่การรณรงค์นำรถไฟฟ้ามาใช้นั้นจะมีแคมเปญเอาลดเก่ามาแลกรถอีวีได้ส่วนลด1แสนบาท รวมทั้งต้องดูมาตรการเรื่องภาษีเพื่อให้รถมีราคาถูก และสามารถทำโครงการตั้งกองทุนหมุนเวียน ทั้งนี้พรรคได้ตั้งครม.กทม.พปชร.เพื่อหารือและจะเปิดนโยบายต่างๆทุกวันอังคารจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง.
