ข่าวร.10รับสั่งทุกหน่วยแก้ปม'ฮาคีม'เต็มที่  - kachon.com

ร.10รับสั่งทุกหน่วยแก้ปม'ฮาคีม'เต็มที่ 
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ศาลสั่งปล่อยตัวนายฮาคีม โมฮัมเหม็ด อาลี อัลโอไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน และเป็นผู้ลี้ภัยของออสเตรเลีย  ว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตนจึงขอให้หยุดการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมด เพราะการแก้ปัญหานี้มีหลายหน่วยงานมาร่วมแก้ไขด้วยกัน ขณะที่ตนไม่อาจไปก้าวล่วงอำนาจของกระบวนการยุติธรรม คืออัยการและศาล นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่ประสานงานกับประเทศออสเตรเลียและบาห์เรนจนทำให้ทุกอย่างมีการแก้ปัญหาด้วยดี ขณะเดียวกัน รัฐบาลกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงห่วงใยในเรื่องนี้ โดยทรงรับสั่งให้ทุกหน่วยงานทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดภายใต้กฎหมายไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า  สำหรับประเทศบาห์เรนนั้น ประเทศไทยมีความสัมพันธ์พิเศษกับบาห์เรนในทุกระดับ ทั้งระดับราชวงศ์ ระดับภาคราชการ รัฐบาล และระดับประชาชนของทั้ง 2 ประเทศมีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปได้ด้วยดี  ตนจึงขอขอบคุณรัฐบาลบาห์เรนที่เห็นถึงความสัมพันธ์พิเศษกับไทย และไม่ต้องการให้ประเทศไทยที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ ต้องมาเจอกับการกดดันตรงนี้ และจากนี้ไป บาห์เรนกับออสเตรเลียจะเป็นผู้แก้ปัญหาระหว่างกันต่อไป โดยรัฐบาลไทยไม่ได้อะไรจากตรงนี้ ตนยืนยันว่ารัฐบาลแก้ปัญหาด้วยความรอบคอบ ไม่ได้นิ่งนอนใจในทุกๆเรื่อง

พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวอีกว่า ว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ คนไทยทุกคนต้องระลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ท่านทรงให้แนวทางลงมายังรัฐบาล โดยทรงพระราชทานพระราโชบาย มาถึงรัฐบาลว่ารัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประชาชนมีความสุข มีทางออก ทางเลือกในการทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น และการแก้ปัญหาสังคม ต้องสร้างระเบียบวินัยของคนในชาติ ซึ่งตนตีความถึงการเคารพกฎหมายด้วย ต้องทำให้ทุกคนไม่มีผลกระทบต่อกันและกัน อีกเรื่อง คือการทำให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติพันธ์  โดยนำวัฒนธรรมและความเป็นมาของชาติ  ไปเพิ่มมูลค่า โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รับไปดำเนินการ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยได้มอบแนวนโยบายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าให้นำโครงการนี้ไปขับเคลื่อนให้ได้มากที่สุด โดยขอให้เชิญชวนภาคธุรกิจ เอกชน มาช่วยกันดูแลเกษตรกร ทั้งด้านความรู้และเครื่องจักร



ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรน ที่ประเทศบาห์เรน เพื่อหารือถึงกรณีนี้  ว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี เราต้องใช้การทูตในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยรัฐบาลบาห์เรนมองในแง่ความสัมพันธ์พิเศษกับเรา เขาเข้าใจดีว่าไทยไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงไม่อยากเห็นประเทศไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกกดดัน หรือถูกกระทำสารพัดอย่างไม่ชอบธรรม รวมทั้งไม่อยากให้เรื่องเหล่านี้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่มาโจมีรัฐบาลไทยได้ พร้อมระบุว่าถ้าไทยอยากจะส่งให้ใคร หรือส่งให้ออสเตรเลีย สามารถส่งได้ แต่ประเทศบาห์เรนขอสงวนสิทธิ์เรื่องคดีของนายฮาคีมกับออสเตรเลียต่อ โดยเขากำลังประสานงานการหารือกับออสเตรเลียในระดับที่สูงขึ้น

“บาห์เรนรับรู้เรื่องที่ประเทศไทยถูกกดดัน และเขารู้ว่าปีนี้เป็นปีที่สำคัญของประเทศไทย เขาไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ ไม่อยากให้ไทยลำบากใจ บาห์เรนเป็นเพื่อนที่ดี ระหว่างที่พวกเราอยู่ที่บาห์เรน นายกรัฐมนตรีบาห์เรนยังให้เกียรติมาเยี่ยมคณะเราที่โรงแรมด้วย ผมยืนยันว่าที่เดินทางไปไม่ใช่เป็นเพราะไทยถูกกดดันจากหลายประเทศ แต่เพราะบาห์เรนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องหาทางออก เขาช่วยอย่างเต็มที่”นายดอน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีบาห์เรนฝากสิ่งใดถึงพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่แล้ว มิฉะนั้นเขาคงไม่อะไรก็ได้.