เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พ.ต.อ ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวภายหลังจากศาลฎีกามีคำสั่ง
จำคุกแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชน
เพื่อประชาธิปไตย(พธม.) คนละ 8 เดือน ไม่รอลงอาญาประกอบด้วยพล.ต.จำลอง ศรีเมือง อายุ 83 ปี, นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 70 ปี, นายพิภพ ธงไชย อายุ 72 ปี, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 68 ปี นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อายุ 72 ปี และนายสุริยะใส กตะศิลา อายุ 45 ปี ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำ
ผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ามาตัวคุมขั
งยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯแล้ว ยกเว้นนายสนธิ ซึ่งถูกคุมขังอยู่
ก่อนหน้านั้น สำหรับผู้ต้องขังใหม่เบื้องต้นจ
ะถูกส่งเข้าไปอยู่ยังแดนแรกรับก่
อน เพื่อทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ถ่ายภาพ พิมพ์ลายนิ้วมือ และตรวจร่างกายว่ามีโรคประจำตัว
ที่เป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งนักโทษที่มีเกณฑ์อายุตั้งแต่
60 ขึ้นไปส่วนใหญ่มักจะมีโรคประจำตั
ว โดยจากผลการตรวจร่างกายจำเลยทั้
งหมดพบว่า นายสมเกียรติ มีโรคประจำตัวป่วยด้
วยโรคความดันสูง เคยผ่าตัดเพื่อรักษาอาการเส้นเลื
อดในสมองตีบ และสมองขาดเลือด ส่วนพล.ต.จำลอง มีอาการปวดไหล่ขวาเรื้อรัง และเคยผ่าตัดทำบอลลูนหัวใจ 3 เส้น ขณะที่นายพิภพ ป่วยเป็นเบาหวานแล
ะความดันโลหิตสูง ต่อมลูกหมากโต ไขมันเลือดสูง ส่วนนายสุริยะใส มีโรคประจำตัวความดันสูง นายสมศักดิ์ เคยรับการรักษาผ่าต้อเนื้อที่ตา ซึ่งอาการป่วยของพวกจำเลยทั้งหม
ดไม่น่าเป็นห่วง แพทย์ได้จัดยาประจำตัวไว้แล้ว
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องขังมีสิทธิเข้าถึงการรัก
ษาพยาบาลได้ตามปกติ กรณีที่อาการเจ็บป่วยไม่ร้ายแรง
ก็สามารถรักษาภายในแดนพยาบาลได้ ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยหนักต้องถูกส่
งตัวไปทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทั
ณฑ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสร็จสิ้นการรับตัวผู้ต้อง
ขังใหม่ ผู้คุมเรือนจำจะนำตัวผู้ต้องขัง
เข้าไปควบคุมไว้ภายแดนแรกรับเพื่
ออบรมระเบียบวินัยและชี้แจงกฎขอ
งเรือนจำ เพื่อให้ผู้ต้องขังใหม่ปรับตัวไ
ม่กระทำผิดวินัยหรือฝ่าฝืนกฎระเ
บียบของเรือนจำ ซึ่งถือเป็นปกติที่ผู้ต้องขังให
ม่จะต้องใช้เวลาปรับตัวทำใจรั
บสภาพความเป็นอยู่ภายในเรื
อนจำและเพื่อนผู้ต้องขัง เบื้องต้นจะให้ผู้ต้องขังพักอยู่ในแดนแรกรับประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงจะจำแนกให้ไปแดนคุ
มขังตามความเหมาะสมต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้องศาลฎีกาจำคุกพธม.8เดือนไม่รอลงอาญา คดีบุกทำเนียบ