ข่าว'มาร์ค'ขนทีมปชป.ลงพื้นที่ขอเสียงคนกทม. - kachon.com

'มาร์ค'ขนทีมปชป.ลงพื้นที่ขอเสียงคนกทม.
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 15 ก.พ.  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเจือ ราชสีห์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบึงกุ่ม-คันนายาว (เฉพาะแขวงรามอินทรา) พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 6 โดยได้พบปะทักทายพร้อมแจกแผ่นพับแนะนำตัวและนโยบายของพรรคให้กับประชาชนผู้สัญจรไปมาบริเวณถนนนวมินทร์ ถนนเกษตร-นวมินทร์ตัดใหม่ แยกนวลจันทร์ และถนนประเสริฐมนูญกิจ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่ขอถ่ายรูปคู่และขอจับมือระหว่างเดินหาเสียง
               


จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า  สำหรับปัญหาที่ประชาชนอยากให้แก้ไขนั้น ในพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออกมีปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างมาก แม้ประชาชนเข้าใจดีว่าเป็นเพราะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า แต่เขาคาดหวังว่าสภาพการจราจรต่อไปนี้ควรจะต้องดีขึ้น นอกจากนี้ประชาชนในเขตบึงกุ่มและคันนายาวต้องการให้มีสวนสาธารณะเพิ่มขึ้น       เมื่อถามถึงการจัดปราศรัยใหญ่ของพรรคในพื้นที่กรุงเทพฯ  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  พรรคประชาธิปัตย์จะจัดการปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพฯ อีกครั้งในช่วงท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยอาจจัดปราศรัยในฝั่งธนบุรีด้วย อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งโดยรวมถือว่าค่อนข้างดี ไม่มีเหตุอะไร ซึ่งตนอยากให้ทุกพรรครักษาบรรยากาศอย่างนี้ต่อไป เพราะจะทำให้การเลือกตั้งมีความสร้างสรรค์มากขึ้น



หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่ามีผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตที่ขาดคุณสมบัติ จำนวน 506 คน เนื่องจากหลายสาเหตุ  ว่า  สำหรับพรรคประชาธิปัตย์มีผู้สมัครส.ส.ระบบเขตบางคนที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ พรรคจึงให้ผู้สมัครส.ส.เหล่านี้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อ กกต.แล้ว ซึ่งเรายังไม่ทราบว่ากกต.จะวินิจฉัยอย่างไร และเมื่อกกต.มีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว แต่ถ้าผู้สมัครคนใดเห็นว่าคำวินิจฉัยนั้นไม่ถูกต้อง ก็มีกระบวนการให้ยื่นร้องเรียนได้ ทั้งนี้ ถ้าในที่สุด มีผู้สมัครส.ส.ระบบเขตของพรรคถูกตัดสินเพราะขาดคุณสมบัติ จะทำให้พรรคไม่มีคะแนนในเขตเลือกตั้งนั้น และส่งผลกระทบกับการคำนวนจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค 



ส่วนปัญหาการจัดลำดับผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น ตนพร้อมพูดคุยกับทุกคน แต่โดยรวม ทุกคนให้ความร่วมมือกันเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้ง  ส่วนกรณีที่นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคอีสาน ที่ไม่พอใจกับลำดับที่ได้นั้น ตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายวิฑูรย์ เพราะตนติดภารกิจทุกวัน แต่ขอให้ทุกคนมาช่วยกันทำงาน แม้แต่คนที่มีลำดับต่ำกว่านายวิฑูรย์ ก็ยังมาช่วย  ขณะที่กรณีของนายโกวิทย์ ธารณา อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่พอใจในเรื่องนี้เช่นกัน และแสดงเจตนาในการขอลาออกจากพรรค ถ้าเขายังยืนยันตามนั้น พรรคคงทำอะไรไม่ได้.