ข่าวส่ง2หญิงป่วยอัลไซเมอร์โผล่คุนหมิงกลับไทยแล้ว - kachon.com

จากกรณีที่นางแก้วมณี อาจอ อายุ 59 ปี หลังหายออกจากบ้านที่จ.เชียงราย นานกว่า 8 เดือน กระทั่งพบตัวที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย พร้อมลูกสาวคือนางสุชาดา อาจอ อายุ 35 ปี เดินทางไปรับตัวนางแก้วมณี กลับจากนครคุณหมิงนั้น

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. น.ส.นิธิวดี มานิตกุล กงสุลใหญ่ไทย ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า  ตนได้เดินทางไปส่งตัวนางแก้วมณี ที่ท่าอากาศยานนานาชาตินครคุนหมิง ในวันนี้ (15 ก.พ.) เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย หลังจากที่นางแก้วมณีเดินพลัดหลงจาก จ.เชียงราย เข้าไปยังนครคุนหมิงทางเท้า และได้รับความช่วยเหลือจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง และตำรวจยูนนานให้การดูแลรักษาพยาบาล นางแก้วมณีเดินทางกลับพร้อมกับนางสุชาดาซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในการเดินทางไปรับมารดาที่นครคุนหมิง และได้ส่งคู่แม่-ลูกดังกล่าวกลับประเทศไทย ซึ่งเมื่อเดินทางถึงจ.เชียงราย ได้มีหัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จ.เชียงราย ไปรอรับด้วย  เรื่องราวครั้งนี้เกิดจากความมือร่วมใจของหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายจีน ในการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง

กงสุลใหญ่ไทยฯ กล่าวอีกว่า  การช่วยเหลือนางแก้วมณีนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2562 นางแก้วมณีถูกพบโดยตำรวจมณฑลยูนนาน ระหว่างเดินอยู่บริเวณถนนรอบทางด่วนของนครคุนหมิง โดยพบเพียงบัตรประจำตัวประชาชน และเมื่อตรวจพบว่านางแก้วมณีมีโรคประจำตัว ทางการจีนจึงให้พักอยู่บริเวณสถานีตำรวจในนครคุนหมิง โดยมีตำรวจจีนช่วยดูแล ต่อมา วันที่ 14 ม.ค.2562 ทางการยูนนานได้แจ้งเรื่องให้สถานกงสุลใหญ่ไทยฯทราบ และขอให้ช่วยตรวจสอบยืนยันสัญชาติของนางแก้วมณี ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯประสานกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบข้อมูล ซึ่งพบว่านางแก้วมณีเป็นบุคคลสัญชาติไทยจริง ขณะที่กรมการกงสุลช่วยประสานหน่วยงานต่างๆของไทย เพื่อติดตามหาญาติไปรับตัวนางแก้วมณีเดินทางกลับไทย  ทั้งนี้ จากการที่สถานกงสุลใหญ่ไทยฯได้พูดคุยกับนางแก้วมณีทางโทรศัพท์ พบว่าพูดจาวกไปวนมา ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและไม่รู้ว่าเข้ามาในจีนแล้ว  สถานกงสุลใหญ่ไทยฯจึงหารือกับตำรวจยูนนาน และเห็นพ้องกันในการนำนางแก้วมณีไปตรวจที่โรงพยาบาลจิตเวชนครคุนหมิง ต่อมาในวันที่ 16 ม.ค.2562 แพทย์วินิจัยว่าเป็นโรคความจำเสื่อมจากความชรา และทางการจีนช่วยเหลือให้นางแก้วมณีพักอยู่ที่โรงพยาบาลโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

น.ส.นิธิวดี กล่าวว่า จากนั้น เมื่อวันที่ 17 ม.ค. สถานกงสุลใหญ่ไทยฯ ได้ส่งล่ามไปช่วยนางแก้วมณีสื่อสารกับแพทย์จีน เพื่อตรวจระดับความรุนแรงของโรคความจำเสื่อม พบว่านางแก้วมณีมีอาการในระดับเริ่มต้น ซึ่งควรได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป  ต่อมา วันที่ 28 ม.ค. สถานกงสุลใหญ่ไทยฯ ได้รับการประสานงานจากสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จ.เชียงราย ว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะนำบุตรสาวของนางแก้วมณี เดินทางมารับตัวนางแก้วมณีกลับประเทศไทย ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ไทยฯ ได้ประสานงานกับฝ่ายยูนนานเพื่อกำหนดวันส่งตัวกลับไทย ตรวจสอบเอกสารที่ฝ่ายไทยต้องจัดเตรียม และขอรับการยืนยันเกี่ยวกับความพร้อมด้านสุขภาพของนางแก้วมณีในการเดินทางโดยเครื่องบิน อีกทั้งออกหนังสือถึงสถานกงสุลใหญ่จีนประจำ จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกการออกวีซ่าสำหรับบุตรสาว  ต่อมา วันที่ 30 ม.ค.2562 สถานกงสุลใหญ่ไทยฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมนางแก้วมณี ที่โรงพยาบาล และออกเอกสารสำคัญประจำตัว (ซีไอ) ให้นางแก้วมณีสำหรับใช้เดินทางกลับประเทศไทย  จากนั้น ในวันที่ 13 ก.พ.2562 บุตรสาวของนางแก้วมณี พร้อมผู้แทนจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้แก่ พ.ต.ท.เรืองชัย เรืองไพศาล สารวัตรตม. เชียงราย และ ร.ต.อ.หญิง จารุวรรณ วงศ์สุวรรณ รองสารวัตรฯ เดินทางถึงท่าอากาศยานนครคุนหมิง โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ

กงสุลใหญ่ไทยฯ กล่าวอีกว่า  ต่อมา ในวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ไทยฯ ได้ประสานฝ่ายยูนนานเพื่อนำนางสุชาดาเข้าเยี่ยมนางแก้วมณี ที่โรงพยาบาลจิตเวชฯ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความตื้นตันที่แม่ลูกพบกันอีกครั้งหลังจากที่นางแก้วมณีหายออกจากบ้านนาน 8 เดือน และได้นัดหมายการส่งมอบตัวนางแก้วมณี เพื่อกลับประเทศไทยในวันนี้ (15 ก.พ.) โดยเหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการประสานงานอย่างแข็งขันระหว่างสถานกงสุลใหญ่ไทยฯ กรมการกงสุล ตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย และสำนักงานหนังสือเดินทาง จ.เชียงราย โดยได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากกรมความมั่นคงสาธารณะมณฑลยูนนานและเจ้าหน้าที่ตำรวจมณฑลยูนนาน ประเทศจีน.