อดีตส.ส.ระยองปชป.ลาออก อ้างลำดับปาร์ตี้ลิสต์รั้งท้าย
การเมือง
เมื่อประกาศรายชื่อบัญชีรายชื่อ ผมอยู่ในลำดับที่ 57 ทราบกันดีว่าไม่มีโอกาสได้เป็น ส.ส.เลย ถือเป็นการฆ่ากันทางการเมือง ผมจึงอยากทราบว่า ผมผิดตรงไหน ทำไมไม่ให้ผมลง ส.ส.เขตเหมือนเดิม หรือเพียงเพราะผมสนับสนุนคุณหมอวรงค์ ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ทั้งๆที่เรื่องนี้ เป็นเรื่องประชาธิปไตย เป็นความเห็นต่างภายในพรรค เมื่อเลือกตั้งจบแล้ว ก็ทำงานร่วมกันต่อไป ตามเเนวทางประชาธิปไตย ที่พรรคชูเป็นหัวใจมาโดยตลอด การกระทำของพรรคที่กระทำกับผมเช่นนี้ เท่ากับว่าไม่เห็นคุณค่าในตัวผมทั้งๆที่เป็นอดีตส.ส.ระยองมา 2 สมัย ทำงานการเมืองเเละต่อสู้ร่วมกับพรรคมาโดยตลอด เพียงเเค่ผมเห็นต่างในการเลือกหัวหน้าพรรคเท่านั้น พรรคก็ตัดโอกาสผมทันที นี่หรือคือการกระทำของพรรคที่อ้างตัวเป็นผู้นำด้านประชาธิปไตยมาตลอด เเต่สิ่งที่ทำกับผม มันตรงกันข้าม เป็นลักษณะของเผด็จการอย่างชัดเจนที่สุด จุดยืนของผมในขณะนี้คือ ต้องการทำงานการเมืองเพื่อประเทศชาติ เเละประชาชน ผมจึงจำเป็นต้องขอลาออกจากพรรค เพื่อทำงานการเมืองของผมต่อไป ในโอกาสข้างหน้า ผมอาจจะมีโอกาสกลับมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์อีก ถ้าพรรคมีการเปลี่ยนแปลง เปิดกว้างและมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ในพรรคมากกว่านี้"
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายวิชัยเคยโพสต์ข้อความลักษณะเดียวกัน เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อเรื่องลำดับผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา และปรากฏว่านายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคกลาง เข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมชี้แจง เหตุผลที่นายวิชัยไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ระบบเขตอีกครั้ง เนื่องจากเขตเลือกตั้งเดิมของนายวิชัยถูกแบ่งเขตใหม่ ทำให้ฐานเสียงหลักของนายวิชัยหายไปทั้งตำบล และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีอดีตส.ส.หลายคนที่ร่วมทีมเดียวกับนายวิชัย ได้รับการอนุมัติจากพรรคให้ลงสมัครส.ส.ระบบเขตต่ออีกสมัย ขณะเดียวกันนายสาธิตได้ตั้งคำถามกลับไปยังนายวิชัยว่า การที่บอกว่ารักพรรค ทำงานให้พรรค มั่นคงต่อพรรคในวันนี้ แต่ในยามที่พรรคกำลังเลือดไหลออกไม่หยุด นายวิชัยกลับไปพบกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งเป็นแกนนำพรรคการเมืองอื่น เพื่อแอบไปคุยต่อรองอะไรกัน นายวิชัยเคยนึกถึงพรรคประชาธิปัตย์และตนบ้างหรือไม่ ซึ่งวันนั้นมีคนมาเตือนตนให้ระวังนายวิชัยมีโอกาสย้ายพรรค ตนยังตำหนิคนที่มาเตือน ว่าไม่เป็นความจริง แต่หลังจากนั้นปรากฏเป็นข่าวไปทั่วว่านายวิชัยย้ายพรรคแล้ว ทำให้ตนต้องคอยตอบคำถามเรื่องวิชัยย้ายพรรคตลอดเวลา.