ข่าว'ชวน'ปลื้ม'ไอติม'มีแววนั่งนายกฯ ขอเสียงดัน'มาร์ค'คืนทำเนียบ - kachon.com

เมื่อวันที่ 17 ก.พ.  ที่ศูนย์ประสานงานชุมชนรุ่งมณีพัฒนา  เขตวังทองหลาง  นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัครส.ส. กทม. เขต 13 เขตบางกะปิ-เขตวังทองหลาง หมายเลข 8 และทีมงาน พบปะประชาชน  ทั้งนี้ นายชวน กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งโดยกล่าวชื่นชมนาย พริษฐ์ว่าเหมือนลูกเหมือนหลาน ฉลาดเหมือนลุงอภิสิทธิ์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาคนแบบนายอภิสิทธิ์ได้ อีกทั้งจบการศึกษาในคณะปรัชญาการเมืองเศรษฐศาสตร์ เพื่อมาเป็นนักการเมือง ได้เกียรตินิยมสูงสุดของไทยมากกว่านายอภิสิทธิ์ และยังเป็นประธานรุ่นของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ซึ่งเมื่อตัดสินใจทำงานการเมือง ไม่แน่ว่าในอนาคตข้างหน้า คนๆนี้อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ตนไม่กล้าพยากรณ์แต่นับเป็นบุคคลที่พรรคประชาธิปัตย์ภูมิใจมากที่ได้มาเป็นตัวแทนของพี่น้อง 



นายชวน กล่าวอีกว่า วันนี้ระบบการเลือกตั้งเปลี่ยนไปจากอดีตการจัดสรรสัดส่วนเขตเปลี่ยนไป แต่เชื่อว่าผู้สมัครในเขตนี้กว่า 10 คนเป็นคนดีทั้งสิ้น ถ้ามองพรรคการเมืองที่อยู่มาอย่างยาวนาน มีเพียงพรรคเดียวที่ไม่โดนยุบพรรค เพราะไม่มีความผิดขณะที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ เราจึงเข้มงวดมากว่าอย่ากระทำผิด  พูดได้ว่า เราเป็นพรรคที่ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ เพราะไม่เคยทำชั่ว ทั้งนี้ตนไม่สามารถทำให้ทุกคนรวยเหมือนกันหมด แต่ทุกคนต้องเท่าเทียม เพราะเราถือกฎหมายเป็นสำคัญ ระบบนิติบัญญัติ ตุลาการ บริหาร เป็นอำนาจอธิปไตย ซึ่งเป็นของประชาชน   และเมื่อปชป.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็จะทำนโยบายเพื่อประชาชน โดยเฉพาะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ เป็น 1,000 บาท และยืนยันว่าตนเป็นคนที่ถือสัจจะ และรักษาคำพูด มากกว่าความต้องการจะเป็นนายกรัฐมนตรี และสิ่งที่ตนพูดไม่ได้พูดหาเสียงเพื่อเอาใจชาวบ้านจนบ้านเมืองพัง หรือประชานิยมเกินเหตุ แต่บ้านเมืองต้องมีสวัสดิการ ยึดหลัก เที่ยงธรรม เที่ยงตรง  ขอแรงพี่น้องประชาชน อย่ามองข้าม 1 คะแนน เพื่อส่งนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 และให้ตนจะเข้าไปในสภาในฐานะผู้สมัครบัญชีรายชื่อ



นายชวน กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจพรรคประชาธิปัตย์ที่ประสบการณ์มายาวนานท่ามกลางประชาธิปไตย ที่ลุ่มๆดอนๆ วนเวียนแต่การยึดอำนาจ บัดนี้บางอย่างเป็นเรื่องถดถอยทำให้ประชาธิปไตยสะดุด แต่ความเข้าใจประชาธิปไตยของประชาชนมีความคืบหน้ามาโดยลำดับ แม้เราจะเคยประกาศ ว่าไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในการทำประชามติ แต่เราก็ต้องทำตาม ลงสมัครรับเลือกตั้ง ใช้ความเป็นประชาธิปัตย์ เพียงหนึ่งเดียว เราจะไม่แยกพรรค ไม่รวมสาขาเพื่อตั้งบริษัทใหญ่ เพราะเราให้เกียรติประชาชน ขออย่าเบื่อแม้จะมีชุมนุมบ้าง แต่ระบบนี้มีการถ่วงดุลอำนาจ วันหนึ่งเมื่อฝ่ายบริหารใช้อำนาจนอกกฎหมายในรัฐธรรมนูญจึงได้บัญญัติในหลักนิติธรรม ขอให้ยึดหลักกฎหมาย อย่าให้เกิดความเหลื่อมล้ำหากเรายึดหลักนี้ รัฐธรรมนูญก็อยู่รอด



ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนขอกำลังใจจากประชาชนในพื้นที่ ขอโอกาสให้เบอร์ 8 และพรรคประชาธิปัตย์เข้ามากอบกู้ปัญหาเศรษฐกิจเหมือนอดีตที่พรรคเข้ามาแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมขอให้มองย้อนไปในอดีต มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ที่สร้างนโยบายเชิงรัฐสวัสดิการ.