ข่าว'มาร์ค'จี้กกต.ตรวจสอบ'บิ๊กตู่' ลงพื้นที่เข้าข่ายหาเสียงหรือไม่  - kachon.com

'มาร์ค'จี้กกต.ตรวจสอบ'บิ๊กตู่' ลงพื้นที่เข้าข่ายหาเสียงหรือไม่ 
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. เวลา 07.00 น.  นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยน.ส.จิตภัสร์ ตั้น กฤดากร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่สี่แยกลาดพร้าววังหิน เพื่อช่วยรณรงค์ขอคะแนนสนับสนุนให้กับพรรคประชาธิปัตย์และนายสรรเสริญ สมะลาภา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 8 ลาดพร้าว-วังทองหลาง (ยกเว้นแขวงพลับพลา) หมายเลข 16 โดยเดินแจกแผ่นพับแนะนำตัวผู้สมัครและนโยบาย “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ของพรรคประชาธิปัตย์ ให้กับประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนที่สัญจรไปมาอย่างคึกคัก ถึงขนาดที่มีผู้ใช้รถรายหนึ่งจอดรถขณะติดไฟแดงแล้ววิ่งลงมาขอถ่ายรูปกับนายอภิสิทธิ์ที่กำลังเดินแจกแผ่นพับด้วย

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาใหญ่ในพื้นที่นี้คือการจราจร ซึ่งประชาชนใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานค่อนข้างนาน จึงต้องเร่งรัดระบบขนส่งมวลชนและจัดระบบสาธารณะอื่นๆให้สอดรับกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน  จากการลงพื้นที่ ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี และอยากเห็นการเลือกตั้งที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง โดยในพื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์มีอดีตส.ส. ประชาชนจะคุ้นเคยกับการทำงานของ ส.ส.ของพรรคที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้มีพรรคใหม่เกิดขึ้น แต่คะแนนเสียงเดิมยังเป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก แต่ต้องให้โอกาสผู้สมัครจากพรรคอื่นๆได้หาเสียงด้วย

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าจะสามารถรักษาพื้นที่เดิมได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราตั้งใจที่จะทำงานให้กับคนกรุงเทพฯในทุกเขต เพราะเรามีความพร้อมในเรื่องนโยบายกรุงเทพฯ และอยากให้ประเทศเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งเรามั่นใจว่าคนกรุงเทพฯมองเห็นว่าการมีรัฐบาลที่ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน ได้สร้างความเดือดร้อนและลำบากอย่างไร ขณะเดียวกัน รัฐบาลที่ใช้อำนาจไปในทางมิชอบได้สร้างความวุ่นวาย ดังนั้นแนวทางที่เราพูดถึงประชาธิปไตยสุจริต กับนโยบาย“แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” จึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกลยุทธ์การหาเสียงจากนี้ไป เราส่งแผนการจัดการปราศรัย และแผนการจัดทำสื่อเผยแพร่ทางโทรทัศน์ต่อ กกต. ภายในวันนี้ (18 ก.พ.) จากนั้นจะเดินทางพบปะประชาชนในทุกภาค รวมทั้งการจัดสรรเวลาเพื่อแสดงวิสัยทัศน์และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน  ส่วนการที่บางพรรคใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการหาเสียงโดยเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้น การแข่งขันในการเลือกตั้งถือเป็นสิ่งที่ดี อยากให้ประชาชนทุกกลุ่มรวมถึงคนรุ่นใหม่มีความตื่นตัวทางการเมืองเพื่อพิจารณาทางเลือกที่ดีที่สุด

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธว่าการลงพื้นที่ตรวจราชการไม่ใช่เป็นการไปหาเสียง  ว่า  คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ควรต้องทำการตรวจสอบว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดตามละเอียด แต่เวลาเป็นข่าวก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าการที่นายกฯลงพื้นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจว่าจะไม่ลาออก ก็ควรทุ่มเททำงานในเชิงนโยบายและสะสางปัญหาที่ค้างอยู่ แต่จากที่สังเกตพบว่าการลงพื้นที่ของนายกฯในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ตอบโจทย์ดังกล่าว จึงอยากให้มีการสร้างบรรทัดฐานที่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะสำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ ประชาชนไม่ชอบคนที่เอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้ว และไม่ได้หวั่นไหวกับการใช้อำนาจรัฐเท่าไหร่ แต่ในต่างจังหวัดอาจมีหวั่นไหวกับอำนาจรัฐบ้าง แต่ประเด็นหลักของตนคือทำไมเราไม่สร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้อง เราอยากเจริญก้าวหน้าเหมือนกับอารยประเทศ แต่ถ้าเราทำการเมืองไม่เป็นมาตรฐาน ก็คงเป็นเรื่องยาก ดังนั้น การใช้พรรคการเมืองที่เป็นมาตรฐานสากลก็จะเป็นคำตอบหนึ่งที่ทำให้การเมืองดีขึ้น.