ข่าว'เพื่อชาติ'ชี้เป็นสิทธิของพรรคการเมืองเสนอนโยบาย - kachon.com

'เพื่อชาติ'ชี้เป็นสิทธิของพรรคการเมืองเสนอนโยบาย
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ทำการพรรคเพื่อชาติ ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อชาติ และนายรยุศด์ บุญทัน โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อชาติ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นการส่งผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเพื่อชาติ      

โดย นายอารี กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อชาติ ทำหน้าที่ติดตามการเลือกตั้งของพรรค ขณะที่ทางพรรคได้ทำแผ่นพับ สติ๊กเกอร์ และเอกสารนโยบายหลัก 9 ข้อของพรรค ให้แก่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขตไว้แจกจ่ายแล้ว ยืนยันว่าพรรคเพื่อชาติพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ผู้สมัครลงหาเสียงกันเต็มที่ มีทั้งการปราศรัยใหญ่และย่อย ส่วนจะได้ ส.ส.แค่ไหนนั้น อยู่ที่ความไว้วางใจของพี่น้องประชาชน ซึ่งเราภูมิใจที่ได้นำเสนอนโยบายดีๆ

ด้านนายรยุศด์ กล่าวถึงการเผยแพร่เอกสารประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในส่วนของพรรคเพื่อชาติ ว่าตามที่ทางพรรคได้ส่ง ส.ส. แบ่งเขตทั้งสิ้น 349 เขตนั้น กกต. ไม่รับรอง 24 คน ด้วยเหตุผลด้านเอกสาร โดยส่วนใหญ่มีปัญหาการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซ้ำซ้อน เนื่องจากรายชื่อยังค้างในฐานข้อมูลเดิม สมาชิกได้ยื่นลาออกจากพรรคเดิมแล้วยังไม่แจ้งกกต. เรื่องการลาออก จึงต้องนำเอกสารใบลาออกจากพรรคเดิม ใบสมัครพรรคใหม่ และใบเสร็จรับเงินไปทำการชี้แจงยืนยัน ขณะนี้กำลังทยอยชี้แจงจนเรียบร้อย เหลือที่ยังไม่เรียบร้อยอีกเพียง 5 คน ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ กกต.รับรอง 143 คน ไม่รับรอง 7 คน ด้วยเหตุผลด้านเอกสารเช่นเดียวกัน อยู่ระหว่างการแก้ไข และดำเนินการพิจารณาของศาล

ทั้งนี้นายรยุศด์ ยังได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชน และประชาชนเรื่องโลโก้ของพรรคเพื่อชาติ เนื่องจากมีการสอบถามมาตลอดเวลา กรณีที่สำนักข่าวหรือเว็บไซต์บางแห่งนำเสนอโลโก้พรรครุ่นเก่า (โลโก้สีเขียว-น้ำเงิน ตัวอักษร พ.พ.ช.) ซึ่งเลิกใช้ไปแล้ว หลังพรรคเพื่อชาติประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2561 ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง หากมีการนำเสนอโลโก้ที่ผิดจะส่งผลต่อพรรค โดยเฉพาะในระบบการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียวที่ต้องจดจำโลโก้ จึงขอความร่วมมือให้ใช้โลโก้ใหม่ (โลโก้ประสานมือสีน้ำเงิน ขาว แดง) ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความสับสนในการใช้โลโก้ผิดจะส่งผลเสียหาย ส่วนชื่อย่อของพรรคก็ได้เปลี่ยนจาก พ.พ.ช. เป็น พช. แล้ว  ส่วนกิจกรรมลงพื้นที่ของพรรคเพื่อชาติ วันที่ 19 - 20 ก.พ.นี้ จะลงพื้นที่กทม.และปริมณฑล วันที่ 21 ก.พ. จัดปราศรัยใหญ่ที่ จ.สตูล วันที่ 22 ก.พ. นายจตุพรจะไปร่วมดีเบตที่ ม.เชียงใหม่ วันที่ 24 ก.พ. ที่ จ.สกลนคร และวันที่ 25 ก.พ. ที่ จ.มหาสารคาม

นายรยุศด์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไล่พรรคการเมืองที่เสนอนโยบายปฏิรูปกองทัพ ลดงบกองทัพเลิกเกณฑ์ทหาร ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ว่า ในระบอบประชาธิปไตย ทุกพรรคการเมืองคงไว้ซึ่งสิทธิในการเสนอนโยบาย โดยมารยาททางการเมือง ผบ.ทบ. ท่านเป็นผู้ใหญ่ อยากให้ระวังการให้ความเห็น ทุกพรรคต้องการนำเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจเอง 

นายรยุศด์ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่ลงการเมืองนั้น ท่านต้องลาออกเพื่อความสง่างาม การตั้ง ส.ว. 250 คน ขึ้นมาเลือกเอง แล้วต้องการ ส.ส.เพียง 126 เสียง ท่านก็ได้เป็นนายกฯ ตามที่ตั้งใจ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวความสง่างามก็ไม่เกิดขึ้นแล้ว วันนี้ท่านมีอำนาจเหนือ กกต. การเลือกตั้งจะเสรีเป็นธรรมหรือไม่ แม้วันที่ 24 มี.ค. เกิดเลือกตั้งจริงได้รัฐบาล แต่ระหว่างทางมีกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็เกิดวิกฤตได้ ดังนั้น ส.ว. ต้องทำสัญญาประชาคมกับทุกฝ่าย พรรคไหนได้เสียงเกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร ส.ว. ต้องโหวตสนับสนุนพรรคที่ชนะเลือกตั้ง หรือพรรคได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง ถ้า ส.ว. คิดได้อย่างนี้ โอกาสเกิดวิกฤตบ้านเมืองจะน้อยลง เราไม่อยากให้เกิดวิกฤติปัญหา เพราะอำนาจหัวหน้า คสช. สามารถปลด กกต. ได้ และมีอำนาจไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ จึงไม่มีอะไรปลอดภัย

เมื่อถามถึงการเสนอยุบพรรคพลังประชารัฐ นายรยุศด์ กล่าวว่า ในบรรยากาศนี้ทุกภาคส่วนอยากเห็นการเมืองไปสู่ประชาธิปไตย การยุบพรรคต้องเป็นธรรมเท่าเทียมกับพรรคอื่น รวดเร็วเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ กกต. ยุบพรรคหนึ่งรวดเร็ว อีกพรรคหนึ่งใช้เวลานานจะไม่เป็นธรรม กกต. อย่าสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งใหม่ การยุบพรรคต้องเท่าเทียมกับพรรคอื่น มิฉะนั้นจะนำไปสู่ความขัดแย้งในอนาคตได้ เราต้องแก้ไขก่อนถึงวันเลือกตั้ง กกต. ต้องสร้างมาตรฐาน สร้างการยอมรับให้กับภาคส่วนต่างๆ.