ข่าวทษช.แนะผบ.ทบ.ปรับปรุงตัวใหม่-วางตัวเป็นกลาง - kachon.com

ทษช.แนะผบ.ทบ.ปรับปรุงตัวใหม่-วางตัวเป็นกลาง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่พรรคไทยรักษาชาติ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ และผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงข่าวถึงการเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้ง โดยนายจาตุรนต์กล่าวว่าหลังกกต.ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนจึงงดการปราศรัย ให้คณะกรรมการบริหารพรรคมีเวลาชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่มีเสียงสะท้อนจากผู้สมัครในเขตต่างๆ ที่ยังคงหาเสียงเป็นปกติและได้รับการตอบรับอย่างดีว่า อยากให้แกนนำพรรคไปช่วยหาเสียง ส่วนการปราศรัยเปิดเวทีขนาดกลางหรือขนาดใหญ่นั้นขอดูสถานการณ์อีกระยะ หากไม่มีเหตุแทรกซ้อนการปราศรัยใหญ่จะเกิดตามปกติ แต่กรรมการบริหารพรรคจะไม่ร่วมในการหาเสียงด้วย เนื่องจากต้องใช้สมาธิในคดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีคนพูดเรื่องคดีในการหาเสียงจะมีการลงโทษหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า จะถึงขั้นลงโทษหรือไม่คงเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค แต่เราจะกำชับไม่ให้มี ถ้าทราบจะติดต่อให้หยุดทันที ส่วนหากศาลตัดสินให้ยุบพรรค มีแผนสำรองไว้หรือไม่นั้น นายจาตุรนต์กล่าวว่า การดำเนินงานทางการเมืองต้องคิดล่วงหน้า ต้องนึกภาพวันข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น และจะทำอย่างไร แต่คำถามนี้ขอไม่ชี้แจง ไม่ตอบ เพราะหากตอบคำถามอาจจะเป็นการไปสร้างแรงกดดันได้ ขณะนี้มีเพียงการเตรียมความพร้อมในการหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น จะไม่มีการพูดถึงประเด็นการยุบพรรค   

นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ีพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้ปรับลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม โดยระบุว่าให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดินด้วย ว่า จริงๆ แล้วผบ.ทบ.พูดอย่างนี้ไม่ได้ เท่ากับแสดงความไม่เป็นกลางทางการเมือง ถือว่าผิดกฎหมาย ผิดระเบียบข้าราชการหรือไม่ เพราะข้าราชการจะแสดงความไม่เป็นกลางทางการเมืองไม่ได้ มาพูดให้ร้าย พูดไม่ดีต่อพรรคการเมืองที่เสนอลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม แต่มากกว่านั้นคือความไม่เข้าใจในกติกาในการเลือกตั้ง  ทั้งนี้จากกรณีนี้มีคนถามว่า แล้วนักการเมืองจะกลัว จะหงอหรือไม่ เมื่อพูดไม่ถูกต้องเราก็ต้องกล้าที่จะพูดว่า ผบ.ทบ.พูดอย่างนี้ไม่ได้ ควรไปปรับปรุงตัวเสียใหม่

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า “ใครจะหนักแผ่นดินหรือไม่ พูดกันไปกันมาไม่จบ  การตัดสินใจของประชาชนในวันที่ 24 มี.ค.น่าจะตอบอะไรได้บ้าง การเลือกตั้งไม่ได้ชี้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะเบ็ดเสร็จ แต่ต้องทำให้บ้านเมืองเดินไปสู่ประชาธิปไตย แก้ไขปัญหาปากท้องให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นชัยชนะของทุกฝ่าย หลายปีที่ผ่านมางบกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ชาวบ้านเลยถามว่างบเพิ่มขนาดนี้ ไม่มีช่วงโปรโมชั่นลด 10 เปอร์เซ็นต์บ้างหรือ พอมีคนพูดขึ้นมาท่านก็โมโหโกรธา”นายณัฐวุฒิกล่าว.