ข่าว'เผดิมชัย'เรียกคะแนนเสียง ชูปัญหาสังคมต้องมาก่อน  - kachon.com

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.เขต5 นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)   กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงบริเวณจังหวัดนครปฐม ว่า ภายหลังวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส. ตนได้เริ่มลงพื้นที่เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนมา 2 ครั้ง โดยการลงพื้นที่เราจะเน้นลงพื้นที่ในบริเวณตลาดที่ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนที่ประชาชนจะออกมาจับจ่ายชื้อของ ตลอดจนพ่อค้าแม่ค้าที่ออกมาตั้งร้านขายของ เนื่องจากตนมองว่าการลงพื้นที่บริเวณตลาดนั้นจะเป็นการสะท้อนปัญหาของชาวบ้านอย่างแท้จริง ซึ่งปัญหาที่ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันคือเรื่องของเศรษฐกิจ ที่หลายคนบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนก็ไม่มีกำลังชื้อ พ่อค้าแม่ขายก็ขายไม่ได้ ทำให้เงินหมุนเวียนในการชื้อขายไม่มี หลายคนก็โทษว่าเป็นเพราะรัฐบาล ซึ่งจริงๆแล้วตนก็ได้บอกกับชาวบ้านที่มาเดินตลาดแล้วว่า ปัญหาเศรษฐกิจนั้นไม่ใช่มาจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นผลกระทบที่หลายๆประเทศก็เจอกัน เราก็ต้องปรับความเข้าใจให้ชาวบ้านได้รู้ถึงปัญหาอย่างจริงๆ ไม่ใช่สาดโคลนใส่อีกฝ่าย เพื่อให้เราได้คะเเนนเสียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาที่เน้นการ "ก้าวข้ามความขัดแย้ง" 



นายเผดิมชัย  กล่าวต่อว่า สำหรับสิ่งที่ตนจะเข้าไปแก้ไขปัญหาหากได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนนั้น ตนอยากจะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยที่รัฐบาลจะเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปช่วยเหลือ และอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นหน้าที่ของชาวบ้านเช่นกัน พูดคือเหมือนการค้าขาย หากเราบอกว่าขายของไม่ดี  ซึ่งถ้าเราลองมาปรับเปลี่ยนคุณภาพของสินค้าให้ดีขึ้น ตนเชื่อว่าเราก็สามารถกลับมาขายได้  เศรษฐกิจก็จะกลับมาครึกครื้นได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนเชื่อว่าสมารถจะแก้ปัญหาได้ จากประสบการณ์ที่ตนเคยคลุกคลีกับชาวบ้านมา  อย่างไรก็ตามส่วนกลยุทธ์ที่ตนจะนำชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจะยึดตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก ที่ระบุว่า  “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งวิชาชีพไว้ให้บริสุทธิ์” ซึ่งตนได้ยึดถือเป็นกรอบในการทำงานมาตลอด และสามารถสะท้อนให้ประชาชนได้เห็นจริง ว่าเราจะมองปัญหาของสังคมมาก่อน ส่วนอีกหนึ่งสิ่งที่ตนทำคือการเป็นคนของประชาชนอย่างแท้จริงคือ เราสัญญาอะไรไว้ตอนหาเสียง เราก็ต้องทำให้ได้ตามที่พูดไว้ และปฎิบัติตนเหมือนตอนที่เราลงพื้นที่หาเสียง ไม่ใช่ว่าได้รับเลือกแล้วจะไม่สนใจประชาชน ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวก็ต้องปล่อยให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ว่าคนที่ประชาชนเลือกจะเป็นคนเช่นไร แต่ในส่วนตัวยืนยันว่าเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องประชาชน.