ข่าว'มาร์ค'ย้ำลดงบฯกลาโหมได้ แต่ต้องมีเหตุผล-ไม่ขัดแย้ง - kachon.com

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยน.ส.จิตภัสร์  กฤดากร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับนายสมชาย เวสารัชตระกูล ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 11 เขตสายไหม พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 8 เดินพบปะประชาชนในตลาดวงศกร เขตสายไหม เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ พร้อมลงคะแนนสนับสนุนพรรค โดยนายสมชายใช้สโลแกนการหาเสียงที่ว่า “คิดอะไรไม่ออกบอกดร.สมชาย  เวสารัชตระกูล  มุ่งมั่นพัฒนาเติมเต็มเขตสายไหมให้เจริญอย่างยั่งยืน” ขณะที่บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายในตลาด เข้ามามอบดอกไม้ ขอกอด และขอถ่ายรูปกับนายอภิสิทธิ์ รวมถึงสะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาได้

ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แต่ละพรรคนำเสนอปรับลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคในการนำเสนอ โดยต้องอยู่ในบรรยากาศที่เป็นไปตามข้อเท็จจริงและเหตุผล รวมถึงไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง ซึ่งงบประมาณของกระทรวงกลาโหมถูกลดในยุคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรมว.กลาโหม นี่แสดงว่าสามารถปรับลดงบประมาณได้ แต่ต้องมีเหตุผลว่าปรับลดด้วยเหตุการณ์หรือสถานการณ์ใด

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงบรรยากาศหาเสียงของพรรคต่างๆในขณะนี้ ว่า  อยากให้ทุกฝ่ายหาเสียงเลือกตั้งอยากสร้างสรรค์ เอาแนวคิดเอานโยบายมาพูดคุยกัน และต้องไม่วิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะที่สร้างความขัดแย้งในบ้านเมือง ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.  เมื่อลงสมัครเป็นนายกฯด้วย ควรร่วมวงสนทนาแลกเปลี่ยนกันได้ ถ้าเราอยากกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย ก็ควรได้ผู้นำที่มีลักษณะความเป็นประชาธิปไตย โดยต้องสามารถแลกเปลี่ยนและฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ และแสดงวิสัยทัศน์ร่วมกับคนอื่นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ในวันนี้ทำให้ประชาชนเริ่มไม่มั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความสับสนเกี่ยวกับการเมืองใน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราถือเป็นเรื่องที่เราต้องแสดงให้เห็นว่ามีพรรคที่เป็นหลัก เป็นสถาบัน พรรคที่อยากทำงานแบบพรรคการเมืองสากล และพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าไม่ได้หวั่นไหวอะไร จึงไม่อยากให้ประชาชนหวั่นไหวและเสียสมาธิ ดังนั้นในวันที่ 24 มี.ค.นี้ต้องเป็นโอกาสที่ประชาชนจะพาประเทศชาติหลุดพ้นจากสภาวะเศรษฐกิจและการเมืองปัจจุบันให้ได้

ต่อข้อถามถึงการมองว่านโยบายหลายอย่างของพรรคประชาธิปัตย์คล้ายกับของพรรคพลังประชารัฐ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่คล้าย เพราะนโยบายมีทั้งของจริงและของลอกเลียน ของจริงคือประชาธิปัตย์ที่มาจากการทำงานที่ต่อเนื่อง เช่น เบี้ยยังชีพและการออมแห่งชาติ ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนริเริ่ม ทั้งที่ในรัฐบาลอื่นในหลายยุคไม่เคยให้ความสำคัญ รวมถึงนโยบายเรื่องการดูแลเด็กซึ่งเราเริ่มนโยบายนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดว่าอย่าไปเชื่อ แต่วันนี้พรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ กลับจะมาทำนโยบายแบบเดียวกัน และใช้เงินมากกว่า  ดังนั้น การโฆษณานโยบายนั้น ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องย้อนกลับไปดูความจริงว่าเป็นอย่างไร และใครทำ เช่น ราคายางพาราไม่มียุคไหนที่ราคาสูงเท่ากับตอนที่พรรคประขาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จึงขอให้มั่นใจว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นของแท้แน่นอน