'อนค.'ลุ้น27ก.พ.ฝากขัง'ธนาธร' ปมไลฟ์สดจวกพลังดูด
การเมือง
Webmaster
2019-02-20 13:07:00
21
Webmaster
2019-02-20 13:07:00
21
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงความคืบหน้าคดีที่ 3 คณะกรรมการบริหารพรรค ถูกคสช.แจ้งความต่อ บก.ปอท. กล่าวหา ตามพ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 14(2) กรณีไลฟ์สดวิจารณ์พลังดูด ว่า ที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายไกลก้อง ไวทยาการ นายทะเบียนสมาชิกพรรค และน.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 3 ราย จัดไลฟ์สดรายการคืนวันศุกร์ให้ประชาชน เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 61 วิจารณ์พลังดูด ตามที่สื่อทุกสำนักรายงานกันอย่างกว้างขวาง แต่กลับถูก พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคสช.แจ้งความดำเนินคดี ก่อนที่ทั้ง 3 คณะกรรมการบริหารพรรคจะเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 61 ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเงียบหายไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมามีความคืบหน้าอีกครั้ง ตามที่พรรคอนาคตใหม่คาดว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งจะมีการเร่งรัดคดี ก็เป็นจริง เมื่อมีการติดต่อมายังทนายความ ว่า มีความจำเป็นอันหลีกเลี่ยงมิได้ที่ต้องสรุปคดีดังกล่าวให้เสร็จภายในวันที่ 22 ก.พ. ก็สะท้อนชัดว่า มีการเร่งรัดมา สรุปคดีก่อนโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ขั้นตอนจากนี้ ทั้ง 3 คณะกรรมการบริหารพรรค จะเดินทางไปพบอัยการสูงสุด (อสส.) ที่สำนักงานอสส. ถ.รัชาดภิเษก ในวันที่ 27 ก.พ. เวลา 09.00 น. ตามที่ได้รับคำสั่งมา ซึ่งต้องลุ้นกันว่า จะมีการฝากขังกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ หากมีการฝากขัง ก็สะท้อนชัดถึงการใช้อำนาจอย่างเกินขอบเขตของคสช. ถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ผ่านการใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ เพื่อปิดปากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่พรรคอนาคตใหม่ที่เป็นเหยื่อของพ.ร.บ.คอมฯ แต่ชัดเจนว่า พ.ร.บ.คอมฯ เป็นเครื่องมือ ที่มีคนอีกหลักร้อยหลักพันคนโดนกฎหมายปิดปากในลักษณะเดียวกันนี้ นี่แสดงให้เห็นว่า ทำไม อนาคตใหม่ถึงเสนอแก้ พ.ร.บ.คอมฯ เมื่อได้เป็นรัฐบาล เพราะสิ่งเหล่านี้สะท้อนชัดถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบ เป็นการใช้อำนาจปิดปากปิดกั้นเสรีภาพประชาชนอย่างชัดเจน อนาคตใหม่ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง การหาเสียงจะไม่ชะลอแน่นอน ยังดำเนินต่อไป แม้นายธนาธรหัวหน้าอาจจะต้องถูกฝากขังก็ตาม เพราะพรรคยังทีมงาน 77 จังหวัด ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตทั้ง 350 คนคอยทำงานอยู่
"ถ้ามีการฝากขังหัวหน้าหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค จะไม่ต่างจากเลือกตั้งกัมพูชาเมื่อปีที่ผ่านมา ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสากลโลก เรารอการเลือกตั้งมา 8 ปี วันที่ 24 มี.ค.นี้ คือความหวัง หากเป็นแบบนั้น ผลการเลือกตั้งจะไม่ได้รับการยอมรับ ความหวังที่ประเทศไทยจะเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยจะไม่เป็นจริง หากยิ่งมีการใช้อำนาจเด็ดขาดมากเท่าไร ก็เชื่อว่าประชาชนจะยิ่งตื่นตัวไปเลือกตั้งฝ่ายประชาธิปไย ทั้งยังจะยังส่งผลกับความเชื่อมั่นของคสช.เอง สะท้อนให้เห็นว่าเกิดการเลือกปฏิบัติดำเนินคดีเฉพาะแกนนำพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น ทั้งที่คือเรื่องปกติที่สังคมวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง" โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าว
เมื่อถามถึง แนวทางการต่อสู้คดีที่ปอท.ดำเนินการแจ้งความนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า จะยืนยันว่า ประชาชนนมีสิทธิและเสรีภาพ วิจารณ์อย่างสุจริต ซึ่งมีปัญหา ในคดีคือ นอกจากเร่งรัดแล้วยังตัดพยานของเราจาก 2 คน เหลือ 1 คน คือ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต ทำให้ไม่อาจเข้าให้การได้ ซึ่งมีความสำคัญต่อคดี ถือเป็นนักวิชาการที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สามารถยืนยันการวิจารณ์ของพรรคว่า ตรงตามหลักการตามที่กระแสสังคมกำลังวิจารณ์ ไม่ใช่การนั่งเทียนพูดความเท็จตาม พ.ร.บ.คอมฯมาตรา 14 (2) ส่วนสาเหตุที่ถูกคสช.แจ้งความนั้น คาดว่าเกิดจาก อนาคตใหม่เป็นพรรคแรกที่ออกมาพูดเรื่อง การปฏิรูปกองทัพ เสนอตัดลดงบประมาณกองทัพร้อยละ 30 หรือ 5 หมื่นล้านบาท กล้าพูดถึงไปถึงต้นตอปัญหา วิจารณ์บุคคลากรในกองทัพที่เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ทุจริตจัดซื้อในกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไปกระทบกับผลประโยชน์มหาศาลกับคคสช.
"ส่วนนายธนาธรนั้นไม่มีความกังวล เพราะเคยคุยกันในคณะกรรมการบิรหารพรรคแล้วประเมินว่า เรื่องแบบนี้ไม่ว่าช้าก็เร็วก็ต้องเกิด อนาคตใหม่ตั้งใจชนกับปัญหาที่ต้นตอ ซึ่งผู้มีอำนาจมีทั้งปืนและกฎหมายสักวันก็ต้องมาเล่นงานคุณ ยิ่งเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ประชาชนยิ่งเห็นปัญหาว่า ต้องเผชิญกับปัญหาอย่างไร" โฆษกอนค.กล่าว.
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเงียบหายไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมามีความคืบหน้าอีกครั้ง ตามที่พรรคอนาคตใหม่คาดว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งจะมีการเร่งรัดคดี ก็เป็นจริง เมื่อมีการติดต่อมายังทนายความ ว่า มีความจำเป็นอันหลีกเลี่ยงมิได้ที่ต้องสรุปคดีดังกล่าวให้เสร็จภายในวันที่ 22 ก.พ. ก็สะท้อนชัดว่า มีการเร่งรัดมา สรุปคดีก่อนโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ขั้นตอนจากนี้ ทั้ง 3 คณะกรรมการบริหารพรรค จะเดินทางไปพบอัยการสูงสุด (อสส.) ที่สำนักงานอสส. ถ.รัชาดภิเษก ในวันที่ 27 ก.พ. เวลา 09.00 น. ตามที่ได้รับคำสั่งมา ซึ่งต้องลุ้นกันว่า จะมีการฝากขังกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ หากมีการฝากขัง ก็สะท้อนชัดถึงการใช้อำนาจอย่างเกินขอบเขตของคสช. ถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ผ่านการใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ เพื่อปิดปากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ไม่ใช่แค่พรรคอนาคตใหม่ที่เป็นเหยื่อของพ.ร.บ.คอมฯ แต่ชัดเจนว่า พ.ร.บ.คอมฯ เป็นเครื่องมือ ที่มีคนอีกหลักร้อยหลักพันคนโดนกฎหมายปิดปากในลักษณะเดียวกันนี้ นี่แสดงให้เห็นว่า ทำไม อนาคตใหม่ถึงเสนอแก้ พ.ร.บ.คอมฯ เมื่อได้เป็นรัฐบาล เพราะสิ่งเหล่านี้สะท้อนชัดถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบ เป็นการใช้อำนาจปิดปากปิดกั้นเสรีภาพประชาชนอย่างชัดเจน อนาคตใหม่ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง การหาเสียงจะไม่ชะลอแน่นอน ยังดำเนินต่อไป แม้นายธนาธรหัวหน้าอาจจะต้องถูกฝากขังก็ตาม เพราะพรรคยังทีมงาน 77 จังหวัด ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตทั้ง 350 คนคอยทำงานอยู่
"ถ้ามีการฝากขังหัวหน้าหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค จะไม่ต่างจากเลือกตั้งกัมพูชาเมื่อปีที่ผ่านมา ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสากลโลก เรารอการเลือกตั้งมา 8 ปี วันที่ 24 มี.ค.นี้ คือความหวัง หากเป็นแบบนั้น ผลการเลือกตั้งจะไม่ได้รับการยอมรับ ความหวังที่ประเทศไทยจะเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยจะไม่เป็นจริง หากยิ่งมีการใช้อำนาจเด็ดขาดมากเท่าไร ก็เชื่อว่าประชาชนจะยิ่งตื่นตัวไปเลือกตั้งฝ่ายประชาธิปไย ทั้งยังจะยังส่งผลกับความเชื่อมั่นของคสช.เอง สะท้อนให้เห็นว่าเกิดการเลือกปฏิบัติดำเนินคดีเฉพาะแกนนำพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น ทั้งที่คือเรื่องปกติที่สังคมวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง" โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าว
เมื่อถามถึง แนวทางการต่อสู้คดีที่ปอท.ดำเนินการแจ้งความนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า จะยืนยันว่า ประชาชนนมีสิทธิและเสรีภาพ วิจารณ์อย่างสุจริต ซึ่งมีปัญหา ในคดีคือ นอกจากเร่งรัดแล้วยังตัดพยานของเราจาก 2 คน เหลือ 1 คน คือ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต ทำให้ไม่อาจเข้าให้การได้ ซึ่งมีความสำคัญต่อคดี ถือเป็นนักวิชาการที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สามารถยืนยันการวิจารณ์ของพรรคว่า ตรงตามหลักการตามที่กระแสสังคมกำลังวิจารณ์ ไม่ใช่การนั่งเทียนพูดความเท็จตาม พ.ร.บ.คอมฯมาตรา 14 (2) ส่วนสาเหตุที่ถูกคสช.แจ้งความนั้น คาดว่าเกิดจาก อนาคตใหม่เป็นพรรคแรกที่ออกมาพูดเรื่อง การปฏิรูปกองทัพ เสนอตัดลดงบประมาณกองทัพร้อยละ 30 หรือ 5 หมื่นล้านบาท กล้าพูดถึงไปถึงต้นตอปัญหา วิจารณ์บุคคลากรในกองทัพที่เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ทุจริตจัดซื้อในกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไปกระทบกับผลประโยชน์มหาศาลกับคคสช.
"ส่วนนายธนาธรนั้นไม่มีความกังวล เพราะเคยคุยกันในคณะกรรมการบิรหารพรรคแล้วประเมินว่า เรื่องแบบนี้ไม่ว่าช้าก็เร็วก็ต้องเกิด อนาคตใหม่ตั้งใจชนกับปัญหาที่ต้นตอ ซึ่งผู้มีอำนาจมีทั้งปืนและกฎหมายสักวันก็ต้องมาเล่นงานคุณ ยิ่งเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ประชาชนยิ่งเห็นปัญหาว่า ต้องเผชิญกับปัญหาอย่างไร" โฆษกอนค.กล่าว.
