กห.ชี้สังคมเป็นตัวกำหนดกองทัพ ย้ำไม่มีงบลับ-นัยพิเศษ
การเมือง
พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า ที่มีการพูดว่ากระทรวงกลาโหมได้งบประมาณแต่ละปีมากขึ้น ต้องดูภาพรวมว่างบประมาณของประเทศในแต่ละปีก็เติบโตขึ้นไปด้วย ซึ่งปัจจุบันงบประมาณของประเทศเติบโตประมาณ 3 ล้านล้านบาท โดยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา งบประมาณกองทัพลดลง ทำให้เกิดปัญหา ไม่มีงบประมาณในการฝึก ไม่มีน้ำมันสำหรับการฝึก โดยเฉพาะเครื่องบิน ไม่มีการบำรุงยุทโธปกรณ์ ทำให้ยุทโธปกรณ์ช่วงนั้นได้รับความเสียหายพอสมควร อีกทั้งยังเกิดปัญหานักบินสมองไหลคือนักบินทหารหลายคนลาออกไปอยู่บริษัทเอกชนจำนวนมาก ซึ่งพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหมก็ทราบดี ซึ่งกองทัพไม่ได้มีงบประมาณลับอะไร ยืนยันว่างบประมาณของประเทศคือภาษีของประชาชน และคือภาษีของทหารด้วย เพราะทหารทุกคนก็เสียภาษีเช่นกัน” พล.ท.คงชีพ กล่าว
พล.ท.คงชีพ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมามีคนพูดว่ารั้วมีไว้ทำไม แต่วันใดที่ไม่มีการบุกเข้ามาในบ้านก็ตอบไม่ได้ว่ามีรั้วไว้ทำไม แต่วันนี้เราอยู่กันข้างในบ้าน แต่ไม่เคยดูสภาพรั้วว่าเป็นอย่างไร ที่ผ่านมามีการให้ข้อมูลคาดเคลื่อนจากความเป็นจริงว่าทหารใช้งบประมาณในเวลา 5 ปีจำนวนล้านล้านบาท มีการเปรียบเทียบว่าควรนำเงินในส่วนนี้ไปใช้จ่ายเพื่อสวัสดิการประชาชนดีกว่าหรือไม่ ตนยืนยันว่างบประมาณดังกล่าวเป็นคนละส่วนกัน
เมื่อถามว่า ตามนโยบายของพรรคการเมืองหากกระทรวงกลาโหมถูกตัดงบ 10 เปอร์เซ็นต์ จะส่งผลกระทบอะไรต่อกองทัพ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า มิติความมั่นคงไม่ใช่เรื่องการป้องกันประเทศเพียงอย่างเดียว เพราะส่งผลกระทบต่อประชาชนด้วย เนื่องจากกองทัพต้องมีงบประมาณในส่วนของช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ และทุกภัยที่ไม่ได้เกิดจากสงครามปัจจุบันก็มีมากมาย แต่เราพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นของประชาชนทุกคน หากข้อเสนอเป็นประโยชน์เราก็พร้อมรับฟัง และอยากพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ไม่อยากให้มีการพูดกับแบบลอยๆ ทั้งนี้หากนายจาตุรนต์ ฉายแสงประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ หรือพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยมีข้อมูลเสนอมาตนก็พร้อมรับฟัง
สำหรับงบประมาณกระทรวงกลาโหมตั้งแต่ปี 2557-2562 มีดังนี้ ปี 2557 ได้รับงบประมาณ 183,819 ล้านบาท ปี2558 ได้รับงบประมาณ 192,949 ล้านบาท ปี 2559 ได้รับงบประมาณ 206,461 ล้านบาท ปี 2560 ได้รับงบประมาณ 213,544 ล้านบาท ปี 2561 ได้รับงบประมาณ 218,503 ล้านบาท และปี 2562 ได้รับงบประมาณ 227,126 ล้านบาท.