ข่าว'ชัชชาติ'ลั่นต้องตัดงบทุกส่วนราชการ หวั่นเป็นภาระในอนาคต - kachon.com

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดเสวนา "เศรษฐกิจด้วยวิธีคิดแบบคนรุ่นใหม่" โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯของพรรคพท. โดยมีนักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมเสวนาด้วย

โดย นายชัชชาติ กล่าวว่า โจทก์ของเศษฐกิจยุคใหม่คือการมีเทคโนโลเข้ามาเป็นตัวเปลี่ยนแปลง เราในฐานะเยาวชนต้องปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ โดยพรรคพท.จะมุ่งส่งเสริมคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคมโดยใช้เทคโนโลยีมาเสริมประสิทธิภาพในการผลิต และเอื้ออำนวยโอกาสใหม่ๆให้กับประชาชน เช่น การถ่ายโอนเทคโนโลยี โดยการเชื่อมทรัพยากรในประเทศกับความต้องการของโลก ไม่ว่าจะเป็นทักษะของแรงงาน สินค้าโอทอป นอกจากนี้ เรายังต้องส่งเสริมประสิทธิภาพในการผลิต โดยการใช้เทคโนโลยี ทุกวันนี้โลกไร้พรมแดนแล้ว การค้าขายในปัจจุบันจึงเปลี่ยนแปลงไป เราต้องโลกทั้งโลกเป็นตลาดของเรา

จากนั้นเวลา 16.30 น. นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายของพรรคพททางด้านเทคโนโลยี ว่า การเปลี่ยนแปลงเรื่องเทคโนโลยีไม่ได้เกิดขึ้นกับคนบางกลุ่ม แต่กระทบกับคนทุกกลุ่ม ซึ่งเราจะเน้นเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของคนทุกกลุ่มในสังคม โดยจะมีกองทุนสำหรับคนที่เปลี่ยนงาน เปลี่ยนโครงสร้างของเกษตรกร ให้มีการปรับปรุงพันธุ์พืช รวมถึงดูแลกลุ่มเอสเอ็มอี เป็นต้น 

เมื่อถามว่า ทันทีที่พรรคเพื่อไทยมีนโยบายเรื่องการปรับลดงบกลาโหมก็มีท่าทีจากฝั่งกองทัพออกมาทันที นายชัชชาติ กล่าวว่า การปรับงบประมาณความหมายคือ ทุกส่วนราชการถ้ามีไขมันก็ต้องปรับออก ซึ่งกองทัพก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบราชการ ถ้ามีไขมันที่ต้องตัดได้ก็ต้องตัดออกเช่นกัน ทั้งนี้ เราไม่ได้เน้นเฉพาะกองทัพ ปัจจุบันถ้าดูสถานการเงิน เราขาดดุลงบประมาณปีนี้ 4.5 แสนล้านบาท ยังไม่รวมงบกลางปี หนี้สาธารณะปัจจุบันปม้จะอยู่ประมาณ 41% ของจีดีพี แต่อีก 3 ปีมีการคาดการ์ว่าจะเพิ่มขึ้นไปถึง 48% ของจีดีพี ซึ่งเป็นภาระในอนาคตที่สูง ดังนั้น การใช้งบประมาณในอนาคตจึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง 

เมื่อถามถึงยอดคนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าที่สูงถึง 2.6 ล้านคน นายชัชชาติ กล่าวว่า ถือว่าคนตื่นตัว ตนอยากออกมาเยอะๆเพราะผลลัพท์ที่ได้จะเป็นการสะท้อนเสียงของคนส่วนใหญ่จริงๆ ทั้งนี้ มองว่า กระแสคนรุ่นใหม่มีความตื่นตัวอย่างมา และตนคิดว่าคนรุ่นใหม่จะต้องออกมาใช้สิทธิเยอะๆ เพราะเขาเป็นคนได้รับผลกระทบจากการเลือกตั้งครั้งนี้มากที่สุด เพราะต้องอยู่กับรัฐบาล กฎหมาย และการบริงานที่ยาวนาน ซึ่งตนรู้สึกดีใจที่มีกระแสการตื่นตัว และมองว่าเป็นสิ่งที่ดีกับสังคมไทย ส่วนโซเชียลมีเดียก็ถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ มีทั้งอำนาจทำลายล้าง และสร้างสรรค์สูง ตนคิดว่า คนที่ใช้โซเชียลจะต้องใช้วิจารณญาณประกอบให้ดีเช่นกัน และต้องรู้ให้รอบด้าน แต่ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ในเรื่องการสื่อสารที่ครอบคลุม และทำให้คนตื่นตัวมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันต้องใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ หัวใจของดิจิทัลคือ ข้อมูลที่ถูกต้อง 

เมื่อถามว่า มีกระแสว่าจะมีเหตุที่จะทำให้ไม่เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่น่ามีแล้ว ถึงขั้นนี้จะมีได้หรือ ตนมองว่าทุกวันนี้ทุกอย่างก็ไปได้ด้วยจังหวะของมัน ส่วนเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่าไปสนใจ เพราะทุกคนก็มุ่งหน้าชี้แจง และประชาชนก็เตรียมตัวเลือกตั้งอยู่ คงยากที่จะไปขวางไม่ให้เกิดการเลือกตั้ง

เมื่อถามถึงกระแสตอบรับของพรรคเพื่อไทยจากการลงพื้นที่ ประเมินว่าจะสามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ตนมั่นใจ แต่จะไปวัดจากคนที่มาต้อนรับเราในพื้นที่ไม่ได้ เพราะคนที่มารับเราก็คือพวกเราอยู่แล้ว ถ้าไม่ชอบเราก็คงไม่มาต้อนรับ ซึ่งจากการรับฟังจากส.ส.ในพื้นที่ ก็ค่อนข้างมั่นใจ แต่เราก็จะต้องทำให้ดีที่สุด และต้องระวังเรื่องการใช้อิทธิพล และใช้เงิน ซึ่งตนได้บอกชาวบ้านไปแล้วว่า คนที่มาอย่างไม่สุจริต สุดท้ายเขาก็ต้องไปเอาคืนในอนาคต ก็อย่าไปเลือกเขา.