ชาวนารวยเละ!พปชร.จัดโปรเด็ดเกี่ยวข้าวรายได้กว่า7หมื่น
การเมือง
Webmaster
2019-02-21 17:36:00
30
Webmaster
2019-02-21 17:36:00
30
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่บริเวณทุ่งนา ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท ก่อนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ปราศรัยใหญ่ครั้งแรกในภาคกลาง บรรดาแกนนำพรรค นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายอนุชา นาคาศัย ผู้สมัครส.ส.ชัยนาท เขต 1 และนายมณเฑียร สงฆ์ประชา ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท เขต2 ร่วมรับฟังปัญหาพร้อมนำเสนอนโยบายภายใต้แนวคิด ”ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม”มีตัวแทนชาวนา6 จ.ภาคกลาง ประกอบด้วย ชัยนาท นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร และจ.สุโขทัย ร่วมพูดคุย
นายอุตตม กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ เพราะจะชี้ชะตาประเทศและคนไทยจะเลือกอนาคตของตัวเอง ปัญหาใหญ่วันนี้คือเรื่องปากท้อง ซึ่งทุกครั้งที่เลือกตั้งทุกพรรคก็พูดเรื่องปากท้อง รวมถึงพรรคพปชร.จะพูดเรื่องข้าวเพราะ ประชาชนจะอยู่ดีกินดีได้ต้องแก้จากฐานรากชุมชนของประเทศต้องเข้มแข็งก่อน ไม่ใช่แค่เน้นการส่งออก ถ้าฐานและการเกษตรไม่เข้มแข็งแล้วจะส่งออกอย่างไร ดังนั้นแนวทางของพรรคพปชร.คือเกษตรประชารัฐ หัวใจหลักคือ “ 3ลด3เพิ่ม” ลดต้นทุน ลดภาระหนี้ ลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ 3เพิ่ม คือ เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางนวัตกรรมทางเลือกในการทำการเกษตร เพิ่มการกระจายช่องทางหารายได้ที่ยั่งยืน เพื่อดูแลตั้งแต่ต้นทางผลิต การตลาดและส่งออก โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ดูแลการลงทุน ส่วนเรื่องพ.ร.บ.ข้าว ที่สนช.เลื่อนการพิจารณาออกไปนั้นแสดงว่าชาวนามีพลังที่พวกเราต้องฟัง พวกตนจะไปถ่ายทอดความกังวลของชาวนาและเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อไป เราเป็นพรรคใหม่คิดใหม่ทำใหม่ ไม่เหมือนของเดิม
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนเป็นอดีตรมว.พาณิชย์ แค่เจอปัญหาข้าว และขายข้าวในสต็อกก็มึนแล้ว ที่ผ่านมาชาวนาเหมือนตัวประกันที่ไม่ได้รับการช่วยจริง และ4-5ปีที่ผ่านมาชาวนาลำบาก เพิ่งจะดีขึ้นในช่วง2ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าชาวนาแข็งแรงด้วยตัวเองและราคาข้าวดีด้วยตัวเอง โดยรัฐบาลช่วยบางครั้งจะดีกว่า โดยนโยบายของพรรคที่สำคัญคือการช่วยเรื่องการเก็บเกี่ยวข้าวเพิ่มเป็น20ไร่ๆละ2,000บาท รวมเป็น40,000 บาท จากเดิมช่วย12ไร่ ๆละ 1,500 บาท ถ้าเอาแนวทางนี้ต้องเลือกพรรคพปชร.นอกจากนั้นมีแนวคิดนาแปลงใหญ่ ให้ชาวนารวมตัวกันเพื่อสร้างที่ตากและเก็บข้าว หากเราได้เป็นรัฐบาล จะให้อีก 30,000 บาท คิดเป็นไร่ละ 1,500บาท รวมทั้งหมดแล้วชาวนาจะได้ 70,000 บาท ทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเราเน้นให้ชาวนาไม่ต้องแบมือขอใคร แต่เน้นความเข้มแข็งด้วยตัวเอง
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่สามารถดำเนินนโยบายให้รัฐเป็นคนซื้อข้าวอย่างรัฐบาลก่อนได้ เพราะถือว่าผิดกฎหมายการค้าโลก แม้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะมีเงินเยอะ จากนโยบายการท่องเที่ยว ก็ไม่สามารถดำเนินนโยบายเช่นนั้นได้ ดังนั้น จึงต้องมาช่วยในปัจจัยการผลิต ซึ่งนโยบายของพรรค พปชร.นั้น เมื่อรวมแล้วจะสามารถขายข้าวในราคาที่ต่างจากนั้นอดีต โดยจะได้รวมๆแล้วประมาณ 10,900 บาทต่อตัน เราต่อยอดนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้ชาวนาได้ราคาข้าวที่สูงขึ้น
นายอนุชา กล่าวว่า ชาวนาและเกษตรกรเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ หากไม่ชาวนา ย่อมจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นชาวนาจึงมีความสำคัญมาก หากข่วยเหลือชาวนา เศรษฐกิจของประเทศจะดีได้อย่างไร ตนจึงมุ่งช่วยเหลือชาวนาเป็นหลัก ให้ชาวนามีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เชื่อว่าพรรค พปชร.จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่แผ่นดินไทยได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำในการลงพื้นที่พบชาวนา แกนนำได้เปลี่ยนการแต่งตัวมาสวมเสื้อม่อฮ่อม และเป็นที่สังเกตว่าตลอดการลงพื้นที่จ.ชัยนาทและการปราศรัยใหญ่มีเจ้าหน้าที่รปภ.ติดตามดูแลความปลอดภัยแกนนำพรรค โดยก่อนหน้านั้นมีการติดตามดูแลทั้งการลงพื้นที่จ.สมุทรสาคร มาแล้ว.
นายอุตตม กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ เพราะจะชี้ชะตาประเทศและคนไทยจะเลือกอนาคตของตัวเอง ปัญหาใหญ่วันนี้คือเรื่องปากท้อง ซึ่งทุกครั้งที่เลือกตั้งทุกพรรคก็พูดเรื่องปากท้อง รวมถึงพรรคพปชร.จะพูดเรื่องข้าวเพราะ ประชาชนจะอยู่ดีกินดีได้ต้องแก้จากฐานรากชุมชนของประเทศต้องเข้มแข็งก่อน ไม่ใช่แค่เน้นการส่งออก ถ้าฐานและการเกษตรไม่เข้มแข็งแล้วจะส่งออกอย่างไร ดังนั้นแนวทางของพรรคพปชร.คือเกษตรประชารัฐ หัวใจหลักคือ “ 3ลด3เพิ่ม” ลดต้นทุน ลดภาระหนี้ ลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ 3เพิ่ม คือ เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางนวัตกรรมทางเลือกในการทำการเกษตร เพิ่มการกระจายช่องทางหารายได้ที่ยั่งยืน เพื่อดูแลตั้งแต่ต้นทางผลิต การตลาดและส่งออก โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ดูแลการลงทุน ส่วนเรื่องพ.ร.บ.ข้าว ที่สนช.เลื่อนการพิจารณาออกไปนั้นแสดงว่าชาวนามีพลังที่พวกเราต้องฟัง พวกตนจะไปถ่ายทอดความกังวลของชาวนาและเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อไป เราเป็นพรรคใหม่คิดใหม่ทำใหม่ ไม่เหมือนของเดิม
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนเป็นอดีตรมว.พาณิชย์ แค่เจอปัญหาข้าว และขายข้าวในสต็อกก็มึนแล้ว ที่ผ่านมาชาวนาเหมือนตัวประกันที่ไม่ได้รับการช่วยจริง และ4-5ปีที่ผ่านมาชาวนาลำบาก เพิ่งจะดีขึ้นในช่วง2ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าชาวนาแข็งแรงด้วยตัวเองและราคาข้าวดีด้วยตัวเอง โดยรัฐบาลช่วยบางครั้งจะดีกว่า โดยนโยบายของพรรคที่สำคัญคือการช่วยเรื่องการเก็บเกี่ยวข้าวเพิ่มเป็น20ไร่ๆละ2,000บาท รวมเป็น40,000 บาท จากเดิมช่วย12ไร่ ๆละ 1,500 บาท ถ้าเอาแนวทางนี้ต้องเลือกพรรคพปชร.นอกจากนั้นมีแนวคิดนาแปลงใหญ่ ให้ชาวนารวมตัวกันเพื่อสร้างที่ตากและเก็บข้าว หากเราได้เป็นรัฐบาล จะให้อีก 30,000 บาท คิดเป็นไร่ละ 1,500บาท รวมทั้งหมดแล้วชาวนาจะได้ 70,000 บาท ทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะเราเน้นให้ชาวนาไม่ต้องแบมือขอใคร แต่เน้นความเข้มแข็งด้วยตัวเอง
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่สามารถดำเนินนโยบายให้รัฐเป็นคนซื้อข้าวอย่างรัฐบาลก่อนได้ เพราะถือว่าผิดกฎหมายการค้าโลก แม้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะมีเงินเยอะ จากนโยบายการท่องเที่ยว ก็ไม่สามารถดำเนินนโยบายเช่นนั้นได้ ดังนั้น จึงต้องมาช่วยในปัจจัยการผลิต ซึ่งนโยบายของพรรค พปชร.นั้น เมื่อรวมแล้วจะสามารถขายข้าวในราคาที่ต่างจากนั้นอดีต โดยจะได้รวมๆแล้วประมาณ 10,900 บาทต่อตัน เราต่อยอดนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้ชาวนาได้ราคาข้าวที่สูงขึ้น
นายอนุชา กล่าวว่า ชาวนาและเกษตรกรเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ หากไม่ชาวนา ย่อมจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นชาวนาจึงมีความสำคัญมาก หากข่วยเหลือชาวนา เศรษฐกิจของประเทศจะดีได้อย่างไร ตนจึงมุ่งช่วยเหลือชาวนาเป็นหลัก ให้ชาวนามีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เชื่อว่าพรรค พปชร.จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่แผ่นดินไทยได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำในการลงพื้นที่พบชาวนา แกนนำได้เปลี่ยนการแต่งตัวมาสวมเสื้อม่อฮ่อม และเป็นที่สังเกตว่าตลอดการลงพื้นที่จ.ชัยนาทและการปราศรัยใหญ่มีเจ้าหน้าที่รปภ.ติดตามดูแลความปลอดภัยแกนนำพรรค โดยก่อนหน้านั้นมีการติดตามดูแลทั้งการลงพื้นที่จ.สมุทรสาคร มาแล้ว.
