ข่าวทษช.คืนชีพปักหมุดปราศรัยใหญ่ลานคนเมือง1มี.ค. - kachon.com

ทษช.คืนชีพปักหมุดปราศรัยใหญ่ลานคนเมือง1มี.ค.
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่พรรคไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุมยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้ง ว่า แม้ว่าทางพรรคจะกำลังเผชิญกับคดียุบพรรค แต่เรื่องการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งก็ต้องดำเนินกันต่อไป ทางพรรคได้วางกำหนดการทำงานไว้หลายพื้นที่ทั้งในส่วนของ กทม.และต่างจังหวัด คือ  วันที่ 23 ก.พ. ลงพื้นที่ย่านวงเวียนใหญ่ กทม. วันที่ 24 ก.พ. เวลา 7.00 น. ช่วยผู้สมัครส.ส.เขต 3 ย่านบางคอแหลม เวลา 15.00 น. ไปพื้นที่ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ วันที่ 25 ก.พ. ลงพื้นที่พบปะประชาชน พร้อมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.ชัยนาท วันที่ 26 ก.พ. ลงพื้นที่พบปะประชาชน พร้อมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครปฐม  วันที่ 27 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคดียุบพรรคเป็นครั้งแรก ทางพรรค จะไม่มีกิจกรรมการเมืองเพื่อให้กรรมการบริหารพรรคติดตามความคืบหน้าคดียุบพรรค วันที่ 28 ก.พ. ลงพื้นที่พบปะประชาชน ที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 

วันที่ 1 มี.ค. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ลานคนเมือง กรุงเทพฯ วันที่ 2 มี.ค. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่จ.พิจิตร  วันที่ 3 มี.ค. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่จ.พิษณุโลก  วันที่ 4 มี.ค. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่จ.กำแพงเพชร และแกนนำพรรคอีกส่วนหนึ่งก็จะลงพื้นที่กทม.ช่วยผู้สมัครส.ส.หาเสียงที่เขตประเวศ วันที่ 5 มี.ค. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ 2 จังหวัด  2 เวที คือ จ.ภูเก็ต และจ.พังงา วันที่ 6 มี.ค. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่จ.กระบี่ วันที่ 7 มี.ค. แกนนำพรรคจะลงพื้นที่จ.ยะลา จ.นราธิวาส และช่วงเย็นจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.สตูล วันที่ 8 มี.ค. พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.ระยอง วันที่ 9 มี.ค.พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.จันทบุรี วันที่ 10 มี.ค. พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.ตราด 

วันที่ 11 มี.ค. พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.กาญจนบุรี มี 2 เวทีที่อ.ไทยโยค กับ อ.ท่าม่วง วันที่ 12 มี.ค. พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.ตาก มี 2 เวที ที่อ.แม่สอด และอ.เมือง วันที่ 13 มี.ค.พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.นครศรีธรรมราช วันที่ 14 มี.ค. พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี มี 2 เวทีคือ อ.เมืองและอ.บ้านตาขุน วันที่ 15 มี.ค. พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.ตรัง วันที่ 16 มี.ค. ซึ่งตามกฎหมายเลือกตั้ง ในช่วงเย็นไม่สามารถลงพื้นที่ทำกิจกรรมทางการเมืองได้ แต่ช่วงกลางวันจะช่วยผู้สมัครส.ส.กทม.ลงพื้นที่ เนื่องจากวันที่ 17 มี.ค. เป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้า วันที่ 18 มี.ค. พบปะประชาชน เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.บุรีรัมย์ มี 2 เวทีคืออ.เมืองและอ.ละหานทราย วันที่ 19-21 มี.ค. จะรอดูสถานการณ์เพื่อเตรียมจัดเวทีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการระบุไว้ว่าจะลงพื้นที่หรือเปิดเวทีปราศรัยที่ใด ส่วนวันที่ 22 มี.ค. ถือเป็นเวทีปิดท้ายการหาเสียง จะจัดปราศรัยใหญ่ปิดท้ายกทม. ส่วนสถานที่อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติ 
 
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับแผนการหาเสียงเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติยังยืนยันในหลักการ เมื่อทางพรรคส่งผู้สมัครส.ส. ก็มีพันธะผูกพันในการทำงาน เมื่อเสนอตัวรับใช้ประชาชนทุกอย่างก็ต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งในการเปิดเวทีและการปราศรัยจะไม่มีกรรมการบริหารพรรคไปร่วมด้วย แม้ในทางกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่เห็นว่าคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีความสำคัญละเอียดอ่อน จึงขอให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารและทีมกฎหมาย ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ดีกว่า 

 นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ได้รับข้อมูลมาว่า ช่วงโค้งสุดท้ายพรรคพลังประชารัฐ จะให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.  ขึ้นเวทีปราศรัย เพื่อช่วยสร้างกระแสความสนใจ ขอบอกไปยังพรรคพลังประชารัฐ ในวันนี้ สิ่งที่ทำมาก็ได้เปรียบเกินกว่าที่จินตนาการไว้แล้ว ไม่ต้องให้ถึงช่วงโค้งสุดท้าย และไม่ขอท้าดีเบตกับพล.อ.ประยุทธ์ เพราะเดี๋ยวท่านจะหาวิธีหลีกเลี่ยง แต่ขอเชิญท่านมาขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงตั้งแต่วันนี้พรุ่งนี้เลย ไม่ต้องรอโค้งสุดท้ายหรือใช้เวทีรัฐบาลพบปะประชาชน ที่มีเนื้อหาสาระคือการเสียง ท่านพูดตลอดว่า ผ่านการรบมามาก ตนก็เข้ารบ แต่ตนก็่ผ่านการต่อสู้ทางการเมืองมาหลายเหตุการณ์เช่นเดียวกัน ในเมือเราจะไปสู้กันในสนามเลือกตั้ง ก็น่าจะสู้กันอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาดีกว่า

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.ข้าว ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในวาระ 2-3 ของสนช. ซึ่งเลื่อนไปพิจารณาในวันที่ 26 ก.พ.นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่21ก.พ.พรรคพลังประชารัฐ ไปเปิดเวทีปราศรัยที่จ.ชัยนาท บอกประชาชนว่า ถ้าได้รับเลือกตั้ง จะไปยกเลิก แก้ไขกฎหมายข้าวในมาตราที่เป็นปัญหา พรรคพลังประชารัฐไม่ควรเอาชาวนามาเป็นตัวประกัน ไม่ควรตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งแล้วจึงอย่างนั้นอย่างนี้ ขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจสั่งการไปยังสนช. ให้ถอนร่างพ.ร.บ.ข้าวที่เลื่อนไปพิจารณาวันที่ 26 ก.พ อย่างไม่มีเงื่อนไข ทำไมสนช.ที่ยกมือผ่านกฎหมายเปรียบได้ราวอาหารตามสั่ง ผู้มีอำนาจจึงยังไม่สั่งการอะไรอีก หากเดินหน้าต่อไป นอกจากจะกินข้าวชาวนาแล้ว ยังหมายถึงจะกินเลือดชาวนาอีกหรืออย่างไร.