กกต.เด้งรับมีอำนาจตรวจสอบปมประวัติ'ธนาธร'เกินจริง
การเมือง
นายแสวงยังกล่าวอีกว่า กกต.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ และได้มีการแจ้งลบข้อความ และโพสต์ ที่ผิดกฎหมายและมีลักษณะต้องห้ามโดยออกคำสั่งไปแล้วหลายฉบับ เพื่อปกป้องผู้สมัครและพรรคการเมืองที่สุจริต ซึ่งมีจำนวนมาก แต่ที่ยากคือการโยงไปถึงผู้กระทำผิด และการลบข้อความในทันทีเพราะต้องประสานไปยังหน่วยงานของรัฐและเจ้าของเว็ปไซต์ ซึ่งบางรายอยู่ในต่างประเทศ แล
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรครวมใจไทยยื่นขอให้กกต.พิจารณาเสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ 12 พรรคการเมืองที่มีการแก้ไขฐานข้อมูลสมาชิกพรรคเพื่อให้ผู้สมัครมีคุณสมบัติในการลงสมัครนั้น นายแสวง กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเรื่อง และยังไม่ขอพูดเรื่องนี้ เมื่อถามอีกว่ากรณีหากศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามกกต.ที่ไม่ประกาศรายชื่อผู้สมัครเนื่องจากขาดคุณสมบัติ ผู้สมัครรายนั้นจะมีความผิดหรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า มีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายที่จะต้องเป็นผู้พิจารณาหลังศาลฎีกามีคำพิพากษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.กำหนดว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 10 ปี.