'บิ๊กตู่'ซัดหยุดหาเสียงโจมตีงบฯกองทัพ
การเมือง
Webmaster
2019-02-22 20:20:00
19
Webmaster
2019-02-22 20:20:00
19
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า ดัชนีชี้วัดความเจริญของประเทศในยุคดิจิทัลมีความซับซ้อนและแข่งขันสูง ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถในด้านต่างๆ เพื่อพาประเทศก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางและการพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดด โดยให้ความสำคัญกับการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาทุนมนุษย์ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการลงทุน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อก้าวสู่กลุ่มประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงทุนภาครัฐก็ส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะของประเทศ โดยในปีงบประมาณ 25561 จากรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของภาครัฐ มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 73 และ 22 ของงบประมาณทั้งหมด และสัดส่วนการลงทุนภาครัฐปรับขึ้นร้อยละ 5 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ล่าสุด ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ร้อยละ 41.8 ซึ่งแม้จะยังต่ำกว่าเกณฑ์สากลที่ร้อยละ 60 แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการคลัง ซึ่งหากเปรียบเทียบการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนไทยในปัจจุบัน ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 ขณะที่การลงทุนในประเทศอื่นๆ ฟื้นตัวกลับมาลงทุนได้ สูงกว่าในช่วงวิกฤตดังกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีงบประมาณค่าใช้จ่ายทุกกระทรวงทั้งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายอื่นๆ ให้ดูจากข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร รายได้ของประเทศเพิ่มขึ้นหรือไม่ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปีปัจจุบัน แล้วการจัดสรรงบฯ ให้แต่ละกระทรวงเพิ่มขึ้น อย่างมีสัดส่วนสัมพันธ์กันอย่างไร ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายความมั่นคง แต่ทุกกระทรวงย่อมกำหนดสัดส่วนในงบประมาณรายรับ –รายจ่าย อย่างชัดเจน รัฐบาลทุกรัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทุกหน่วยงาน ทุกกิจกรรมทั้งของประชาชน พลเรือน ตำรวจ ทหาร ซึ่งจะเห็นได้ว่างบฯ ที่ลงไปสู่ประชาชนมากกว่าเดิมในทุกมิติ ทั้งระบบงานในปัจจุบันและการลงทุนเพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้ ให้กับประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไม่อยากให้นักการเมือง พรรคการเมืองนำมาหาเสียง ที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน จนนำมาซึ่งการสร้างความเกลียดชัง โดยไม่มีหลักการ ไม่เข้าใจกฎหมาย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือ พ.ร.บ.การเงินการคลังของรัฐ ซึ่งรัฐบาลนี้ยังไม่ได้ทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้น หรือกองทุนเงินสำรองของประเทศลดน้อยลงแต่อย่างใด การใช้จ่ายงบฯ ด้านความมั่นคงก็ใช้งบฯ ในส่วนที่ได้รับจัดสรร ใช้ในการซ่อมแซม จัดซื้อ จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อให้สามารถดำรงสภาพและศักยภาพของกองทัพของทุกคน ดังนั้น สิ่งที่คนไทยควรระลึกถึง คิดให้ถูกต้อง ก็คือความมั่นคง ความมีเสถียรภาพศักยภาพความสงบเรียบร้อย เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ถ้าบ้านเมืองไม่มีความมั่นคง ไม่มีเสถียรภาพ ก็จะทำอย่างอื่นไม่ได้เลย และเราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศอีกด้วย สิ่งที่หลายคนพยายามโจมตี ให้ดูว่าความมุ่งหมายอย่างไร คืออะไร วันนี้มีเพียงทหารและสถาบันที่เข้มแข็ง หากจะมีใครมุ่งทำลาย 2 สิ่งนี้อยู่ หรือไม่ ช่วยกันคิดดู
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า ขอให้ทุกคนหนักแน่น ใช้วิจารณญาณในการรับ และส่งต่อข้อมูลข่าวสาร และช่วยกันรักษาบรรยากาศ แห่งความสามัคคี ปรองดองของคนในชาติ ต่อไป.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงทุนภาครัฐก็ส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะของประเทศ โดยในปีงบประมาณ 25561 จากรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของภาครัฐ มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 73 และ 22 ของงบประมาณทั้งหมด และสัดส่วนการลงทุนภาครัฐปรับขึ้นร้อยละ 5 ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ล่าสุด ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ร้อยละ 41.8 ซึ่งแม้จะยังต่ำกว่าเกณฑ์สากลที่ร้อยละ 60 แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการรักษาวินัยทางการคลัง ซึ่งหากเปรียบเทียบการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนไทยในปัจจุบัน ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 ขณะที่การลงทุนในประเทศอื่นๆ ฟื้นตัวกลับมาลงทุนได้ สูงกว่าในช่วงวิกฤตดังกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีงบประมาณค่าใช้จ่ายทุกกระทรวงทั้งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายอื่นๆ ให้ดูจากข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร รายได้ของประเทศเพิ่มขึ้นหรือไม่ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปีปัจจุบัน แล้วการจัดสรรงบฯ ให้แต่ละกระทรวงเพิ่มขึ้น อย่างมีสัดส่วนสัมพันธ์กันอย่างไร ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายความมั่นคง แต่ทุกกระทรวงย่อมกำหนดสัดส่วนในงบประมาณรายรับ –รายจ่าย อย่างชัดเจน รัฐบาลทุกรัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทุกหน่วยงาน ทุกกิจกรรมทั้งของประชาชน พลเรือน ตำรวจ ทหาร ซึ่งจะเห็นได้ว่างบฯ ที่ลงไปสู่ประชาชนมากกว่าเดิมในทุกมิติ ทั้งระบบงานในปัจจุบันและการลงทุนเพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้ ให้กับประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไม่อยากให้นักการเมือง พรรคการเมืองนำมาหาเสียง ที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน จนนำมาซึ่งการสร้างความเกลียดชัง โดยไม่มีหลักการ ไม่เข้าใจกฎหมาย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือ พ.ร.บ.การเงินการคลังของรัฐ ซึ่งรัฐบาลนี้ยังไม่ได้ทำให้หนี้สาธารณะสูงขึ้น หรือกองทุนเงินสำรองของประเทศลดน้อยลงแต่อย่างใด การใช้จ่ายงบฯ ด้านความมั่นคงก็ใช้งบฯ ในส่วนที่ได้รับจัดสรร ใช้ในการซ่อมแซม จัดซื้อ จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อให้สามารถดำรงสภาพและศักยภาพของกองทัพของทุกคน ดังนั้น สิ่งที่คนไทยควรระลึกถึง คิดให้ถูกต้อง ก็คือความมั่นคง ความมีเสถียรภาพศักยภาพความสงบเรียบร้อย เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ถ้าบ้านเมืองไม่มีความมั่นคง ไม่มีเสถียรภาพ ก็จะทำอย่างอื่นไม่ได้เลย และเราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศอีกด้วย สิ่งที่หลายคนพยายามโจมตี ให้ดูว่าความมุ่งหมายอย่างไร คืออะไร วันนี้มีเพียงทหารและสถาบันที่เข้มแข็ง หากจะมีใครมุ่งทำลาย 2 สิ่งนี้อยู่ หรือไม่ ช่วยกันคิดดู
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในตอนท้ายด้วยว่า ขอให้ทุกคนหนักแน่น ใช้วิจารณญาณในการรับ และส่งต่อข้อมูลข่าวสาร และช่วยกันรักษาบรรยากาศ แห่งความสามัคคี ปรองดองของคนในชาติ ต่อไป.
