ข่าวจี้'บิ๊กตู่'ให้ส.ว.หนุนเสียงข้างมากตั้งรัฐบาล - kachon.com

จี้'บิ๊กตู่'ให้ส.ว.หนุนเสียงข้างมากตั้งรัฐบาล
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. เวลา 06.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายเกียรติ สิทธีอมร ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  นายเจริญ คันธวงศ์ นายสมเกียรติ  ฉันทวานิช อดีตส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ พบปะประชาชน ที่สวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋ว แขวงยานนาวา เขตสาทร และที่ตลาดกิตติ ซอยเซนต์หลุยส์  เพื่อหาเสียงเลือกตั้งช่วยน.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ผู้สมัครส.ส. กทม.เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร และ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล ผู้สมัครส.ส. กทม.เขต 3 บางคอแหลม ยานนาวา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับการต้อนรับจากสมาคมผู้สูงอายุที่มาออกกำลังกายเข้ามาทักทาย ให้กำลังใจ และขอถ่ายรูป  มีประธานผู้สูงอายุกลุ่มฟ้าใสมอบช่อดอกเฟื่องฟ้าสีชมพูให้เป็นกำลังใจกับคณะของนายอภิสิทธิ์ด้วย



นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ เขตนี้เป็นเขตที่มีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์มานาน ที่จริงแล้วทั่วประเทศเคยมีคนที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งทุกครั้ง ก็แสดงออกว่ายังมีความมั่นคงและผูกพัน เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ไปที่จ.สุโขทัยก็เช่นเดียวกันมีประชาชนออกมาให้กำลังใจจำนวนมากทำให้เรากำลังใจมากยิ่งขึ้น



หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 เสียง กับจำนวนส.ส.พรรคพลังประชารัฐอาจร่วมมือชิงจัดตั้งรัฐบาล ว่า  ตนแสดงจุดยืนตั้งแต่ต้นว่าแม้ส.ว.จะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเราอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างราบรื่นที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อที่จะทำให้ประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับ ดังนั้นส.ว.ควรดูเจตนารมย์ของประชาชน เรียกร้องทุกพรรคว่าควรหากระบวนการภายในของสภาผู้แทนราษฎรให้ชัดเจนเสียก่อนว่าเสียงข้างมากของส.ส.สนับสนุนใครเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าทุกพรรคทำอย่างนี้ ก็จะสะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง  เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าสุดท้ายแล้วอาจจะไม่เป็นไปตามนั้นในเมื่อกฎหมายเปิดช่องไว้ให้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนจะบอกกับคนที่คิดจะทำอย่างอื่นว่าอย่าทำเลย อยากให้เห็นแก่ประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ให้ชาวโลกมั่นใจกับกระบวนการประชาธิปไตยของไทย



ต่อข้อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าไม่ได้ที่จะมาจัดตั้งรัฐบาลแข่ง แต่ในอดีต ส.ว.อิงอยู่กับพรรคการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละประเด็นกัน เพราะโครงสร้างตามรัฐธรรมนูญทุกฉบับต้องการให้ส.ว.มีความเป็นกลาง ในอดีต พรรคประชาธิปัตย์พยามทักท้วงว่าเวลาที่พรรคการเมืองพยายามเข้าครอบงำวุฒิสภา ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เห็นว่าหลักการนี้ถูกต้อง ก็ต้องสร้างความมั่นใจในฐานะที่เป็นรัฐบาลในขณะนี้และมีส่วนได้เสียในการเลือกตั้ง ท่านจะไม่เข้าไปครอบงำส.ว.

“ท่านน่าจะพูดแบบที่พวกผมพูดให้ส.ว.สนับสนุนใครก็ตามที่ประชาชนสนับสนุนตั้งรัฐบาล ถ้าท่านพูดอย่างนี้ ทุกคนก็สบายใจ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะท่านเป็นหัวหน้าคสช.มีส่วนในการแต่งตั้งส.ว. ไปมีส่วนได้เสียกับส.ว.ที่สามารถมีสิทธิ์เลือกท่านกลับมามีอำนาจได้ นี่คือปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ได้แปลว่าคนที่มีปัญหาดีหรือไม่ดี แต่เป็นสิ่งที่โดยหลักสากลและหลักธรรมาภิบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะจะมีคำถามตลอดเวลาว่าการตัดสินใจมีผลประโยชน์อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่  ฉะนั้น ถ้าพล.อ.ประยุทธ์อยากจะให้ชัดเจน ควรประกาศหลักการเช่นเดียวกับที่พวกผมประกาศว่าให้ส.ว.สนับสนุนผู้ที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์โอดครวญว่าถูกทุกพรรครุม ทั้งที่ควรจะดูในสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์เคยทำให้กับประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งดีๆก็ไม่มีใครว่าอะไร ประชาชนก็พอใจกับความสงบเรียบร้อยในช่วงที่ผ่านมา แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเศรษฐกิจปัญหาปากท้องนั้น ประชาชนส่วนใหญ่เขาไม่ไหว ก็พูดความจริงกัน การเป็นคนมาสู่สนามประชาธิปไตยก็ต้องสามารถที่จะยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) บอกแล้วว่าไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ถ้าท่านจะมาร่วมวงสนทนาด้วย ท่านจะได้มีโอกาสชี้แจงด้วยตัวท่านเองว่าสิ่งที่พรรคการเมืองต่างๆพูดไม่จริงไม่มีเหตุผลท่านก็มาหักล้างได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคการเมืองมั่นใจหรือไม่ว่าพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้จะไม่ชิงร่วมมือกับส.ส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาล นายภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไปตอบแทนพรรคเหล่านั้นไม่ได้ แต่คิดว่าทุกเวทีเราจะสอบถาม เพราะคิดว่าการที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปแบบสากล น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศและเศรษฐกิจ.