จี้'บิ๊กตู่'ให้ส.ว.หนุนเสียงข้างมากตั้งรัฐบาล
การเมือง
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ เขตนี้เป็นเขตที่มีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์มานาน ที่จริงแล้วทั่วประเทศเคยมีคนที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งทุกครั้ง ก็แสดงออกว่ายังมีความมั่นคงและผูกพัน เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ไปที่จ.สุโขทัยก็เช่นเดียวกันมีประชาชนออกมาให้กำลังใจจำนวนมากทำให้เรากำลังใจมากยิ่งขึ้น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 เสียง กับจำนวนส.ส.พรรคพลังประชารัฐอาจร่วมมือชิงจัดตั้งรัฐบาล ว่า ตนแสดงจุดยืนตั้งแต่ต้นว่าแม้ส.ว.จะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเราอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างราบรื่นที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อที่จะทำให้ประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับ ดังนั้นส.ว.ควรดูเจตนารมย์ของประชาชน เรียกร้องทุกพรรคว่าควรหากระบวนการภายในของสภาผู้แทนราษฎรให้ชัดเจนเสียก่อนว่าเสียงข้างมากของส.ส.สนับสนุนใครเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าทุกพรรคทำอย่างนี้ ก็จะสะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าสุดท้ายแล้วอาจจะไม่เป็นไปตามนั้นในเมื่อกฎหมายเปิดช่องไว้ให้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนจะบอกกับคนที่คิดจะทำอย่างอื่นว่าอย่าทำเลย อยากให้เห็นแก่ประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ให้ชาวโลกมั่นใจกับกระบวนการประชาธิปไตยของไทย
ต่อข้อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าไม่ได้ที่จะมาจัดตั้งรัฐบาลแข่ง แต่ในอดีต ส.ว.อิงอยู่กับพรรคการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละประเด็นกัน เพราะโครงสร้างตามรัฐธรรมนูญทุกฉบับต้องการให้ส.ว.มีความเป็นกลาง ในอดีต พรรคประชาธิปัตย์พยามทักท้วงว่าเวลาที่พรรคการเมืองพยายามเข้าครอบงำวุฒิสภา ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เห็นว่าหลักการนี้ถูกต้อง ก็ต้องสร้างความมั่นใจในฐานะที่เป็นรัฐบาลในขณะนี้และมีส่วนได้เสียในการเลือกตั้ง ท่านจะไม่เข้าไปครอบงำส.ว.
“ท่านน่าจะพูดแบบที่พวกผมพูดให้ส.ว.สนับสนุนใครก็ตามที่ประชาชนสนับสนุนตั้งรัฐบาล ถ้าท่านพูดอย่างนี้ ทุกคนก็สบายใจ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะท่านเป็นหัวหน้าคสช.มีส่วนในการแต่งตั้งส.ว. ไปมีส่วนได้เสียกับส.ว.ที่สามารถมีสิทธิ์เลือกท่านกลับมามีอำนาจได้ นี่คือปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ได้แปลว่าคนที่มีปัญหาดีหรือไม่ดี แต่เป็นสิ่งที่โดยหลักสากลและหลักธรรมาภิบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะจะมีคำถามตลอดเวลาว่าการตัดสินใจมีผลประโยชน์อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ฉะนั้น ถ้าพล.อ.ประยุทธ์อยากจะให้ชัดเจน ควรประกาศหลักการเช่นเดียวกับที่พวกผมประกาศว่าให้ส.ว.สนับสนุนผู้ที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์โอดครวญว่าถูกทุกพรรครุม ทั้งที่ควรจะดูในสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์เคยทำให้กับประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งดีๆก็ไม่มีใครว่าอะไร ประชาชนก็พอใจกับความสงบเรียบร้อยในช่วงที่ผ่านมา แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเศรษฐกิจปัญหาปากท้องนั้น ประชาชนส่วนใหญ่เขาไม่ไหว ก็พูดความจริงกัน การเป็นคนมาสู่สนามประชาธิปไตยก็ต้องสามารถที่จะยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) บอกแล้วว่าไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ถ้าท่านจะมาร่วมวงสนทนาด้วย ท่านจะได้มีโอกาสชี้แจงด้วยตัวท่านเองว่าสิ่งที่พรรคการเมืองต่างๆพูดไม่จริงไม่มีเหตุผลท่านก็มาหักล้างได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคการเมืองมั่นใจหรือไม่ว่าพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลชุดนี้จะไม่ชิงร่วมมือกับส.ส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาล นายภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไปตอบแทนพรรคเหล่านั้นไม่ได้ แต่คิดว่าทุกเวทีเราจะสอบถาม เพราะคิดว่าการที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปแบบสากล น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศและเศรษฐกิจ.