ข่าว'ตู่'แง้มไต๋ รอเชือด'บิ๊กตู่'คาสนามดีเบต - kachon.com

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายวิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ นำทีมผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อชาติ ในจ.ปทุมธานี ทั้ง 6 เขต ได้แก่ เขต 1 นายธนนน ดวงทิตย์ เขต 2 น.ส.ทองพิศ สุพร เขต 3 นายประเทืองวุฒิ ลิ้มรสสุคนธ์ เขต 4 นายธนยศ หรือ สุริยา ชินพันธุ์ เขต 5 นายเบาหวิว มณีแจ่ม และ เขต 6 นายธนะพงศ์ อุ่นพันธ์หริ่ม ลงพื้นที่หาเสียงจ.ปทุมธานี  โดยตั้งแต่เวลา 07.00 น. นายจตุพร พร้อมด้วยผู้สมัคร เดินพบปะประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า บริเวณตลาดปทุมธานี และขึ้นรถแห่หาเสียง รอบอ.เมืองและอ.ลาดหลุมแก้ว จากนั้นได้เข้าร่วมพิธีทำบุญ กวนข้าวทิพย์ ที่วัดมะขาม ปิดท้ายหาเสียงช่วงเช้าด้วยการ เดินพบปะประชาชนที่ ตลาดไทและ ตลาดไอยรา โดยนายจตุพร กล่าวว่า จ.ปทุมธานีมีลักษณะคล้ายกับ จ.นนทบุรี ผู้สมัครมีความเป็นเอกภาพในการที่จะช่วยในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กับระยะเวลาที่เหลือเพียงแค่ 1 เดือน เป็นเวลาที่มากพอสมควรกับการลงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับประชาชนซึ่งมองว่าการเมืองประเทศไทยในระยะหลัง ประชาชนจะรอตัดสินใจในโค้งสุดท้าย เพราะฉะนั้นภารกิจหลักของผู้สมัครทุกคน คือการลงไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ทั้งรับฟังความคิดเห็น ว่าต้องการให้พรรคเพื่อชาติเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในเรื่องใดบ้าง รวมถึงการนำเสนอนโยบายพรรคด้วย

นายจตุพร ยังกล่าวถึงการท้าดีเบตกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) แต่นายสุเทพระบุว่าไม่ให้ความสำคัญ ว่า ตนยังให้ความสำคัญกับนายสุเทพ ระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่นายสุเทพ จะต้องไปอบรมสมาชิกให้รับรู้ว่าระหว่างคนเลี้ยงช้างกับเล่าปี่นั้น ถ้าเล่าปี่ยังอยู่ในยุคสมัยนี้ คนเลี้ยงช้างกับเล่าปี่เสียงเท่ากันในวันเลือกตั้ง ดังนั้นวันเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่ว่าใครใหญ่กว่าจะได้เสียงมากกว่า คนที่เป็นพล.อ.กับประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งก็ใช้สิทธิ์เท่ากัน และนี่คือประชาธิปไตย  ดังนั้นตนยืนยันว่า ไม่ได้จะเกาะกระแสอะไรกับนายสุเทพ เพราะไม่ทราบว่าจะไปเกาะกระแสเรื่องอะไร อีกทั้งเคยฟาดฟันกันในเวทีรัฐสภา นอกสภา และอยู่สถานะที่ ยืนคนละฝ่ายซึ่งความเป็นจริงตนก็ไม่อยากสนใจ แต่เมื่อนายสุเทพประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ วิจารณ์พรรคฝั่งตรงข้ามด้วยการประกาศว่าจะไม่รวมด้วย ทั้งที่ไม่เคยถามฝั่งนี้เลยว่าจะร่วมสังฆกรรมกับนายสุเทพหรือไม่ ทั้งนี้ฝ่ายประชาธิปไตยต้องการรักษาบรรยากาศ และหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า ส.ว.ทั้ง 250 คน มีสมอง นายจตุพร กล่าวว่า  พล.อ.ประยุทธ์มีสมองมากกว่า ส.ว. 250 คน ซึ่งความเป็นจริง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่เสนอตัวอยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ และจัดตั้ง ส.ว. ตนเชื่อว่าส.ว.จะมีสมอง สามารถทำได้ตามเจตนารมณ์ รู้ผิดชอบชั่วดีแต่ทั้งนี้เมื่อพล.อ.ประยุทธ์แต่งตั้ง ส.ว.เองได้นั้น ขอถามว่าจะไม่ตั้งคนที่ไม่โหวตตนเองหรือ ส่วนกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะจัดเวทีดีเบตนโยบายบริหารประเทศ 54 พรรค โดยยืนยันว่าพล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นดีเบตได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามนั้น พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่สิ่งน่ากลัวในเวทีดีเบต ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ พูดข้างเดียวมาตลอด ไม่เคยมีการพูดในลักษณะตอบโต้ แค่ถูกตั้งคำถาม ก็ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีนิสัยดี ด้วยการขอโทษทีหลัง คนไทยก็ให้อภัยมาโดยตลอด เป็นเผด็จการที่ขอโทษมากที่สุด อย่าว่าแต่ในประเทศไทย ทั้งโลกก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นในวันนี้ ตนมองว่าทุกคนไม่ได้กลัวว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาในสนามการดีเบต เพราะทุกคนรู้ว่าเมื่อพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาในสนามดีเบต หรือสนามการเลือกตั้งนั้น ทุกคนก็รู้ดีว่าจะจัดการกับพล.อ.ประยุทธ์อย่างไร

"ถ้าพล.อ.ประยุทธ์มีความมั่นใจก็ถอดหัวโขนออกเสีย ทั้งตำแหน่งหัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรี ก็จะได้หาเสียงทั้งวัน ซึ่งไม่มีใครบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถขึ้นเวทีดีเบตได้ และจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพียงแต่ว่าเอาให้ถูกต้อง ซึ่งถ้าอยากเป็นแชมป์ ก็มาแข่งกับคนอื่นจะได้จบ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่เคยแช่งพล.อ.ประยุทธ์เครื่องบินตก ซึ่งแปลกใจว่าทำไมมีคนแช่งให้เครื่องบินตก ดังนั้นขอร้องคนไทยอย่าไปแช่งให้เครื่องบินตก เพราะบนเครื่องบินไม่ได้มีพล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียว"นายจตุพร กล่าว.