ข่าวแนะกกต.ตีความ'บิ๊กตู่'ขาดคุณสมบัติชิงนายกฯหรือไม่ - kachon.com

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. เวลา 16.00 น.ที่ตลาดพูล แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นำโดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจ พร้อมแกนนำพรรค ลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อช่วยน.ส.สราริน ชาลีวรรณ ผู้สมัครส.ส.เขต 22 คลองสาน บางกอกใหญ่ ธนบุรี หาเสียง จากนั้นแกนนำทษช. ได้เดินตลาดสัมปราย้า ซอยเจริญนคร 28 ย่านคลองสาน เพื่อพบปะประชาชน และขึ้นรถปราศรัยกับประชาชน โดยนายจาตุรนต์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่หลังจากนี้จะย้ำกับประชาชนในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน โดยทษช.มั่นใจเพราะเราพร้อมในเรื่องของบุคลากร และนโยบายในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ วันนี้กระแสความนิยมของทษช.เริ่มกลับมาดีขึ้น หลังกลับมาหาเสียงอีกครั้ง มีประชาชนเรียกร้องให้เราไปลงพื้นที่ทั่วประเทศ พรรคยืนยันจะเดินหน้าต่อไปตามแผ่นเดิมที่วางไว้



ด้านนายณัฐวุฒิ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)จะเปิดปราศรัยใหญ่ที่เวทีลานคนเมือง ในวันที่ 1 มี.ค.  และทุกวันทั้งเดือนมี.ค. พรรคฯจะปราศรัยทุกวัน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าครั้งนี้หากประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ตนเชื่อว่ารวมกันทั่วประเทศยังไงก็ไม่ได้ที่ 1 แต่หากประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์เท่ากับ 1 คะแนนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช ขณะเดียวกันตนเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นหุ้นส่วนกันกับประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ในเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ข้าว เราขอให้นายกฯถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ ออกจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และต้องรับฟังชาวนาและเสียงทักท้วง แต่วันนี้เรียกร้องไปแล้วก็ยังไม่มีการผ่อนกฎหมายดังกล่าว



ต่อมา เวลา 17.35 น.ที่ตลาดสัมปราย้า ซอยเจริญนคร 28 ย่านคลองสาน นายจาตุรนต์ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ เตรียมเริ่มกระบวนการคัดเลือกส.ว.ว่า ในช่วงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ประชาชนส่วนใหญ่อาจจะไม่เข้าใจกติกาตามรัฐธรรมนูญ แต่พอมาถึงช่วงการคัดเลือกส.ว.ทำให้เห็นว่า กว่าประชาชนจะมีสิทธิเลือกผู้แทนเข้าสภาฯได้ ไม่เท่ากับพล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวที่ต้องใช้สิ่งเหล่านี้ ฉะนั้นถือว่าไม่เท่าเทียม และเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองและประชาชนทั่วประเทศ อีกทั้งในขณะนี้พล.ประยุทธ์ และพวกยังคงใช้อำนาจและมีสำนึกแบบเผด็จการในแบบคสช.เต็มตัว ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ก็พูดเหมือนตัวเองเป็นคสช. ไม่ได้นึกว่า ตนเองเป็นข้าราชการประจำที่จะต้องวางตัวเป็นกลาง

“ทั้งรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ต่างไม่มีจิตสำนึกประชาธิปไตย ทั้งๆที่วันนี้เข้าสู่ช่วงเลือกตั้งแล้ว แต่รัฐบาลก็ยังผ่านโครงการใหญ่ สนช.ก็ยังมีการเร่งรัดผ่านกฎหมายสำคัญๆ เช่น พ.ร.บ.ข้าว โดยไม่ฟังเสียงประชาชน และเป็นสิ่งที่น่าสงสัยว่า เป็นไปโดยสุจริตหรือไม่ และมีการนำเงินไปใช้ประโยชน์ในการเลือกตั้งหรือไม่ ทั้งๆที่ควรจะหยุดผ่านโครงการใหญ่ๆ และพิจารณากฎหมายและหันมาวางตัวในบทบาทที่เป็นรัฐบาลรักษาการจึงไม่อาจเชื่อว่าการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ยุติธรรมได้ ดังนั้น ทางพึ่งทางเดียวที่ชนะพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีส.ว.250 เสียง ประชาชนต้องสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้รับชัยชนะท่วมท้น ” นายจตุรนต์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เตรียมให้พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยหาเสียงนั้น นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ควรจะให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาดีเบตและหาเสียง  แต่ปัญหาใหญ่ขณะนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ต้องเตรียมการชี้แจงให้ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีลักษณะต้องห้ามเป็นบัญชีนายกฯของพรรคพปชร.หรือไม่ เนื่องจากเป็นหัวหน้าคสช. ซึ่งจะต้องตีความว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และทำให้ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 98 และ160 ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่.