ข่าว'มาร์ค'จี้'บิ๊กตู่'แข่งขันเสมอภาคห่วงนโยบายข้าว'พปชร.' - kachon.com

'มาร์ค'จี้'บิ๊กตู่'แข่งขันเสมอภาคห่วงนโยบายข้าว'พปชร.'
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่สวนหลวง ร.9 และบริเวณตลาดเอี่ยมสมบัติ ถ.ศรีนครินทร์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมแกนนำพรรคลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และนายสามารถ มะลูลีม ผู้สมัครส.ส.กทม. เขต 20 สวนหลวง-ประเวศ (แขวงดอกไม้-หนองบอน) ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีประชาชนให้การต้อนรับและมาขอถ่ายรูปเซลฟี่กับนายอภิสิทธิ์เป็นระยะๆ



ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวผลโพลล์หยั่งเสียงส.ส.กทม. ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ 19 ที่นั่ง ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ 11 ที่นั่งนั้นว่า เป็นธรรมดาของการสำรวจความคิดเห็นที่ทำกันหลายสำนัก ซึ่งก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทางพรรคก็ตั้งเป้าว่าครั้งนี้อยากจะทำงานให้พี่น้องคนกทม.ทั้งจังหวัด เชื่อว่าทุกเขตมีบุคลากรที่เดินหน้ามุ่งมั่นเต็ม อย่างไรก็ตามยอมรับว่าบางเขตอาจจะยากหน่อย เพราะเลือกตั้งเมื่อคราวก่อนก็อาจจะมีคะแนนน้อยกว่าพอสมควร ด้านผู้สมัครหน้าใหม่ก็มีหลายเขต แต่มีความตั้งใจสูง ย้ำว่ามีคนทุกรุ่นอยู่ในพรรคผสมผสานทำงานด้วยกันได้

เมื่อถามถึงการที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จริงจังกับพื้นที่กทม. มากขึ้น นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไปพบปะประชาชนก็ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่ เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ในฐานนะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐสามารถร่วมดีเบตการเมืองได้นั้น นายอภิสิทธิ์  กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นเหตุผลอะไรที่จะมาร่วมดีเบตไม่ได้ เพราะถ้ามาร่วมไม่ได้ ทำไมถึงนำรูปติดป้ายช่วยผู้สมัครหาเสียงได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่กกต. ทำความชัดเจน แต่ก็ดี เพราะทุกฝ่ายจะได้สบายใจและปฏิบัติให้ถูกต้อง

“แต่ตามหลักแล้วเมื่ออาสาตัวเข้ามาทำงานให้กับประชาชนก็ต้องพร้อมที่จะเข้ามาสู่กระบวนการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ส่งเสริมประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นข้าราชการการเมือง ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนก็อาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อตัดสินใจลงมาแล้วก็อยากจะให้แข่งขันบนความเสมอภาค เท่าเทียมกันเป็นไปตามหลักสากล” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนตัวอยากจะดีเบตกับพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องของตน เป็นเรื่องของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่เขามีสิทธิ์จะรู้ว่าแต่ละฝ่ายมีความคิดความอ่านอย่างไร สามารถให้มีการท้วงติง เปรียบเทียบได้ ไม่ใช่เป็นผลประโยชน์ของผู้สมัครด้วยกัน แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่เพจเฟซบุ๊กของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโพสต์นโยบายที่มีความคล้ายคลึงกับนโยบายจำนำข้าวนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอ่านดูก็เป็นโครงการจำนำข้าว การไปพยายามดึงข้าวออกจากเกษตรกรในราคาที่สูงกว่าตลาด ซึ่งถ้าราคาไม่ขยับขึ้น ก็ต้องมาบริหารจัดการระบายข้าวก็ไม่ต่างอะไรกับการจำนำข้าว ส่วนตัวแปลกใจมากที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งบริหารบ้านเมืองมาหลายปีและทราบอยู่แล้วว่าความเสียหายจากการจำนำข้าวเป็นอย่างไร แต่กลับกล้าที่จะเสนอนโยบายจำนำข้าวอีก แม้ไม่ใช้คำว่า “จำนำ” หรือ “รับซื้อ” แต่ก็พูดในทำนองไปกู้ไม่มีดอกเบี้ย แล้วไม่ต้องเอามาคืนก็ได้ ก็ไม่ต่างกับการจำนำข้าว ในขณะที่นายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเอง ยังยอมรับว่าจะไม่ทำอีก วันนี้กลับกลายเป็นว่าพร้อมจะไปผลักดันนโยบายเหล่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนจะเป็น “เพื่อไทยคิด พลังประชารัฐทำ” นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ประเทศชาติเสียหาย”.