ข่าวพปชร.รอคำตอบกกต.'บิ๊กตู่'ดีเบต-หาเสียงได้หรือไม่ - kachon.com

พปชร.รอคำตอบกกต.'บิ๊กตู่'ดีเบต-หาเสียงได้หรือไม่
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. บริเวณตลาดปากเกร็ด และตลาดวัดสะพานสูง จ.นนทบุรี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำพรรคล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาลงพื้นที่เขต 4 จ.นนทบุรี ช่วยนายณรงค์ จันทนดิษฐ ผู้สมัครส.ส.นนทบุรี เขต4 พรรคพลังประชารัฐหาเสียง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก และมีประชาชนให้การตอบรับด้วยดี



นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ปากเกร็ดเป็นหนึ่งในพื้นที่ตัวอย่างที่มีความเข้มแข็ง เพราะมีการรวมตัวของสถาบันการเงินชุมชนปากเกร็ดร่วมใจซึ่งช่วยให้ชุมชนเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้นด้วยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ก็มีข่าวดีจาก รัฐบาลที่ได้อนุมัติพ.ร.บ.สถาบันการเงินชุมชนมารองรับความเป็นนิติบุคคลของสถาบันชุมชน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็พร้อมสนับสนุนส่งเสริมให้มีสถาบันการเงินชุมชนในทุกชุมชน นอกจากนี้จ.นนทบุรีมีตลาดชุมชนที่มีความสำคัญต่อชุมชนหลายตลาดเช่น ตลาดปากเกร็ด ตลาดวัดสะพานสูง ทางพรรคเองก็มีนโยบายสนับสนุนให้มีตลาดชุมชนใกล้บ้าน ให้พี่น้องในชุมชน สามารถซื้อหาอาหารและสินค้าที่ราคาถูก หลากหลาย ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังส่งเสริมอาชีพและรายได้ภายในชุมชนช่วยให้เศรษฐกิจชุมชนมีความคึกคักมากขึ้น

ทั้งนี้ในระหว่างลงพื้นที่ พ่อค้า แม่ค้าแผงลอยได้ขอให้พรรคพลังประชารัฐทบทวนนโยบายจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย โดยนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลจะมีการทบทวนตั้งกรรมการเพื่อผ่อนปรนดูว่าพื้นที่ไหนสามารถทำได้และทำไม่ได้เพื่อให้ผู้ค้าแผงลอยไม่เดือดร้อนมีพื้นที่ทำกินเพราะเสน่ห์ของกรุงเทพมหานครคือสตรีทฟู๊ด



จากนั้นนายกอบศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทุกพรรคการเมืองต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคมาดีเบตด้วยว่า ทางพรรคยังรอคำตอบที่เป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่าพล.อ.ประยุทธ์สามารถทำอะไรได้บ้าง ที่ไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย ทั้งเรื่องของการขึ้นเวทีดีเบตและลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง รวมทั้งต้องรอปรึกษาทีมกฎหมายก่อน เพื่อให้เกิดความชัดเจน และมั่นใจว่าไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย จากนั้นก็จะขอตารางพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อเดินหน้าทันที

“ขณะนี้พรรคการเมืองอื่นถือว่ามีความได้เปรียบที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรค สามารถลงพื้นที่พบปะกับประชาชนได้ และจากการลงพื้นที่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาเรามั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ที่นั่งไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง แม้ผลโพลจะเคย ระบุว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ เป็นอันดับ 1 แต่ ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลก็ตาม เพราะยังมีเวลาเหลืออีก 30 วัน โดยจะเดินหน้าลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อขอคะแนน พร้อมมั่นใจ จะชนะคู่แข่งแบบทิ้งห่างหลายช่วงตัว”โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว.