'มาร์ค'ปราศรัยใหญ่ภูเก็ต ชูเปลี่ยนเป็นเมืองมหานคร
การเมือง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งในการปราศรัยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นโอกาสของประชาชนที่จะได้ไปใช้สิทธิออกเสียง และประชาธิปัตย์ขอเป็นตัวเลือกในการที่จะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจะมีการห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมือง แต่ประชาธิปัตย์เราไม่ได้ปิดพรรคที่เรายังคงมีการลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนในโอกาสต่างๆ และมีการพูดคุยกันโดยตลอด จนนำมาสู่การกำหนดเป็นนโยบาย โดยปัญหาสำคัญที่พี่น้องประชาชนได้รับ คือ ปัญหาเศรษฐกิจและเป็นเรื่องแรก หากเราได้รับการเลือกตั้งเข้าไปจะทำและทำทันที คือ การแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน หรือแก้จน รวมถึงการพัฒนาคนเพื่อคนจะได้สร้างชาติต่อไป
“ด้านการท่องเที่ยวนั้นจะมีการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของภาคใต้ในการรองรับการท่องเที่ยว ส่วนของพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะยางพาราซึ่งจะต้องมีราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท ขณะที่นโยบายสำหรับจังหวัดภูเก็ตนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง เป็นรูปแบบพิเศษ ยกระดับเป็นภูเก็ตมหานคร มหานครแห่งการท่องเที่ยว โดยให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ภูเก็ตโดยตรง ยกระดับให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภาคใต้ มีการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคม ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศสู่มาตรฐานสากล ผลักดันระบบขนส่งมวลชนอย่างเป็นระบบด้วยรถไฟฟ้า ป้องกันมลพิษ มุ่งสู่ Green City สนับสนุนให้เป็นสังคมเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ รวมถึงยกระดับมาตรฐานระบบกู้ภัยทางทะเล และสนับสนุนการเกิดสนามบินแห่งที่ 2 ของภูเก็ต” นายอภิสิทธิ์ กล่าว และกล่าวด้วยว่า เนื่องจากรูปแบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไป จึงขอให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสองเขตเลือกตั้ง เพราะทุกคะแนนเสียงล้วนมีความหมาย เพื่อจะสามารถเข้าไปเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนจบการปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ ก็ได้มีคำถามในเรื่องของการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว การจัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม ปัญหาเรื่องน้ำที่ไม่เพียงพอ การพัฒนาบุคลากรเพื่อมารองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว, ปัญหาราคายางพารา และเรื่องปัญหาประมง ซึ่งนายอภิสิทธิชี้แจงว่า ทุกปัญหาได้มีการวางแนวทางในการดำเนินการไว้เรียบร้อยแล้ว