ข่าวเปิดตัวหนังสือ'ประชารัฐ สร้างชาติ' คู่มือโปรโมต'บิ๊กตู่'หมื่นเล่ม  - kachon.com

เปิดตัวหนังสือ'ประชารัฐ สร้างชาติ' คู่มือโปรโมต'บิ๊กตู่'หมื่นเล่ม 
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร.พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค ร่วมแถลงเปิดตัวหนังสือ “ประชารัฐ สร้างชาติ” โดยเป็นเนื้อหาพูดถึงมุมมอง เส้นทางชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก ความเป็นมา คู่ชีวิต เหตุผลในการตัดสินใจเข้าบริหารประเทศ และการเข้าสู่การเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี รวมถึงทิศทางนโยบายสำคัญ และผลงานการบริหารประเทศตลอด 4 ปี ซึ่งหนังสือดังกล่าวมีทั้งสิ้น 157 หน้า จัดพิมพ์ 10,000 เล่ม โดยจะมีการแจกให้กับผู้สมัคร ส.ส. และทีมงานผู้สมัคร ส.ส. เพื่อใช้ในการรณรงค์หาเสียง



โดยนายอุตตม กล่าวว่า หนังสือดังกล่าวจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อให้ผู้สมัครส.ส. มีข้อมูลตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ และสิ่งที่ทำมาตั้งแต่ก่อนมาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่จัดทำเพื่อนำนายกรัฐมนตรีมาหาเสียง เพราะไม่ได้มีการแจกจ่ายทั่วไปหรือวางขาย โดยต้นทุนเล่มละ 100 บาท ซึ่งรวมอยู่ในค่าใช้จ่ายในการหาเสียง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้สมัคร ส.ส.และตัวแทนของพรรคในพื้นที่นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง นโยบาย และคนที่พรรคเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประยุทธ์ ไปนำเสนอกับประชาชน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือ “ประชารัฐ สร้างชาติ” พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการตรวจเนื้อหาทั้งหมดด้วยตัวเอง ก่อนที่จะมีการเผยแพร่และตีพิมพ์ และได้รับมอบหนังสือดังกล่าวจากพรรค พปชร.แล้ว



นายอุตตม กล่าวถึงกรณีปรึกษากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคขึ้นดีเบตได้ ว่า เรากำลังดำเนินการหารือกันเป็นการภายในพรรคอยู่ ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทั้งนั้น ส่วนจะส่งเอกสารไปยังถามกับ กกต.เมื่อไรนั้น ต้องรอให้เราเห็นสมควรก่อนว่าจะถามในประเด็นใด เราไม่ได้กำหนด ยังอยู่ระหว่างหารือกัน

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่า พรรค พปชร.มี 250 ส.ว.เป็นทุนเดิมในการเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการหยิบยกประเด็นการเมืองขึ้นมาคือ เรื่องเป็นประชาธิปไตยกับไม่เป็นประชาธิปไตย จุดยืนของ พปชร.เคารพระบอบประชาธิปไตย และการที่ลงสู่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ว่าผู้นำเป็นใครคือ การเคารพเสียงประชาชนในการเลือก ส.ส. และพรรคการเมือง การสร้างวาทกรรมดังกล่าว เป็นการเริ่มต้นความขัดแย้งตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง 

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนกรณี ส.ว. 250 คน เป็นเรื่องที่เกิดก่อนจะมีพรรค พปชร. และเป็นกลไกลตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงมติของประชาชน ที่สำคัญ เป็นคำถามพ่วงที่แยกออกมาจากคำถามที่อยู่ในรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แยกออกมาชัดเจน ซึ่งประชาชนให้ความเห็นชอบ 13.9 ล้านเสียง ที่จะให้มีกลไก ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ในช่วงระหว่างเปลี่ยนผ่านประเทศ พปชร.เคารพกติกา เพราะคิดว่าถ้าไปวิพากษ์กติกาตั้งแต่เริ่มต้น จะนับหนึ่งไม่ได้ แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับ ส.ว. เพราะเป็นกระบวนที่อยู่นอกพรรค อีกทั้งยังอยู่ระหว่างกระบวนการสรรหา ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นใคร คนเหล่านั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรค

“กลไกการจัดตั้งรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญหลังการเลือกตั้ง จุดยืนของ พปชร.เคารพในกติกาของรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะต้องมีเสียงข้างมากในสภา หากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง เพราะเราต้องการให้รัฐบาลเข้มแข็งเพราะมีเสียงข้างมาก ส่วนกลไกเลือกนายกรัฐมนตรีอยู่นอกกระบวนการของ พปชร.เพราะเป็นกลไกรัฐสภาทั้งหมด การที่จะเอา ส.ว. 250 มาเลือกนายกฯ พรรค พปชร.ไม่ได้มีส่วนร่วมกลไกนั้น”นายสนธิรัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่คนที่เลือก ส.ว.คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายการเมืองตั้งประเด็นขึ้นมา ส่วนตัวเคารพในกลไกรัฐสภา เชื่อว่า ส.ว.เป็นคนมีคุณภาพ อย่าไปมองว่าคนเหล่านั้นไม่มีคุณภาพ ไม่เป็นธรรมกับวุฒิสภาที่กำลังจะเกิดขึ้น ต้องให้ความไว้วางใจ เพราะเขาก็มีดุลยพินิจของตัวเองเช่นกัน 

นายอุตตม กล่าวถึงกรณีที่มีการโจมตีว่านโนบายข้าวของพรรค พปชร.เหมือนโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่การ “จำนำข้าว”และไม่ใช่ “ประกันราคาข้าว” แน่นอน เป็นคนละเรื่องกัน สิ่งที่พรรค พปชร.นำเสนออยู่บนหลักการเกษตรแบบยั่งยืน รัฐบาลจะต้องเข้าไปดูแลแบบครบวงจร เราจะให้การสนับสนุนคือ เป็นการช่วยด้านปัจจัยการเก็บเกี่ยว และไม่ใช่นโยบายตายตัวว่าต้องทำทุกปี ไม่มีการบอกราคาว่าต้องให้เท่าไร ไม่เหมือนจำนำข้าวที่กำหนดราคามาเลย

ด้านนายสนธิรัตน์  กล่าวยืนยันว่า เราใช้หลักการชะลอการขาย และใช้กลไกราคาตลาดเป็นตัวตั้ง ดังนั้น ไม่มีการรับซื้อสูงกว่าตลาดเหมือนกับโครงการรับจำนำข้าว เราเชื่อว่านโยบายที่ทำจะสร้างเสถียรภาพราคาได้อย่างยั่งยืน.