ข่าวชี้นโยบาย'กัญชาเสรี'ผิดอนุสัญญายาเสพติดยูเอ็น - kachon.com

ชี้นโยบาย'กัญชาเสรี'ผิดอนุสัญญายาเสพติดยูเอ็น
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายในงานประชุมวิชาการแห่งชาติ “ผลิตภัณฑ์สุขภาพไทย ปลอดภัย” ว่า ขณะนี้ตนได้ลงนามในร่างกฎหมายนิรโทษกรรมผู้ครอบครองกัญชาแล้ว คาดว่าน่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาไม่น่าเกินวันที่ 26 ก.พ.นี้ 

ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมรองรับการมาแจ้งการครอบครองกัญชาเรียบร้อยแล้ว ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และในต่างจังหวัด ทั้งนี้กลุ่มองค์กรวิจัย สถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐ หรือแพทย์แผนปัจจุบันแพทย์แผนไทย เวลามาแจ้งไม่ต้องนำของกลางมา เพราะจะต้องมีการแจ้งและแนบเอกสารหลักฐานโครงการวิจัย หรือการศึกษากัญชาทางการแพทย์ จำนวนปริมาณที่ใช้ เป็นต้น ส่วนผู้ป่วยก็จะต้องแนบใบรับรองการป่วยจากแพทย์ จะมีเพียงกลุ่มที่ 3 คือบุคคลอื่นๆ ที่มีกัญชาในครอบครองเมื่อมาแจ้งการครอบครองต้องนำของกลางมาด้วย แต่หากมีจำนวนมากเกินไปให้แจ้งทางหน่วยงานรัฐซึ่งจะมีมีคณะกรรมการตรวจรับในแต่ละจังหวัดพิจารณาเป็นรายๆ ไป เพราะต้องนำของกลางมาเก็บะหากจะขออนุญาตครอบครองก็ต้องทำตามกฎระเบียบที่กำหนด สำหรับคนที่สงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1556 กด 3 ที่จะเริ่มเปิดตอบคำถามด้านกัญชาโดยเฉพาะในวันที่ 27 ก.พ.นี้ เป็นต้นไปแต่ให้บริการเฉพาะวันและเวลาราชการ

ขณะที่ นายวิโรจน์ สุ่มใหญ่ ประธานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ (INCB) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองหาเสียงด้วยการชูนโยบาย ปลูกกัญชาเสรี ว่า เป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากไทยเข้า ร่วมภาคีเครือข่ายอนุสัญญายาเสพติดขององค์การสหประชาชาติ ตั้งแต่พ.ศ. 2504  ร่วมกับ 196 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะสามารถใช้กัญชาได้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น และหากในอนาคตไทยต้องการที่จะปลูกกัญชาเสรี ต้องออกจากอนุสัญญาดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ไทยเสียประโยชน์ในหลายอย่าง ในการซื้อขาย นำเข้า ยาต่างๆ ที่รักษาโรค  

นายวิโรจน์ กล่าวว่า หลายประเทศปลูกกัญชาเสรีนั้นถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น การปลูกกัญชาเสรีในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา ทางรัฐรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก็ไม่เห็นด้วยกับการปลูกเสรี หรือให้ประชาชนสูบอย่างเสรี เพราะเป็นการขัดต่อกฏหมายของรัฐบาลกลางอย่างรุนแรง รัฐบาลกลางจึงดำเนินนโยบายที่จะจัดการกับรัฐเหล่านี้อยู่ ซึ่งสหประชาชาติจะไม่เจรจาโดยตรงกับแต่ละรัฐ ปล่อยให้หน่วยงาน คือรัฐบาลกลางเท่านั้นที่เป็นผู้เจรจา สำหรับกฎหมายกัญชาทางการแพทย์ที่รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอยู่นั้น สอดคล้องกับสนธิสัญญายาเสพติดระหว่างประเทศ ที่ให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ ทาง INCB ได้ติดตามการดำเนินงานของไทยมาโดยตลอด และการออกกฎหมายนิรโทษผู้ครอบครองกัญชาก็อยู่ในสนธิสัญญาฯ ที่ทำได้ และเห็นว่าครอบคลุม ซึ่งในหลายประเทศก็มีการทำในลักษณะเช่นนี้.