หลักฐานมัด3พี่น้องชินวัตร 'แม้ว'สไกป์สั่ง-'ปู/เจ๊แดง'รับรู้
การเมือง
กรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ไต่สวนเพิ่มเติมใน คดีทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตสอง สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดย มีผู้ถูกกล่าวทั้งสิ้น 71 ราย มีทั้งตัวบุคคลและนิติบุคคล ในจำนวนนี้จากการตรวจสอบของ "เดลินิวส์ออนไลน์" พบว่า เกี่ยวโยงถึง 3 พี่น้องตระกูลชินวัตร คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 36 นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 37 และ นายทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 41
สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำความผิดนั้น จากการไต่สวนของ ป.ป.ช. พบว่า นายทักษิณเป็นผู้มีบทบาท และเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คอยชี้นำนโยบาย กิจกรรมความเคลื่อนไหวทางการเมือง และเป็นผู้ตัดสินใจที่จะให้ใครดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ โดยหลักฐานสำคัญที่ป.ป.ช. ได้รับคือ การสนทนาทางวิดีโอ (Skype) ที่โรงแรม เอส.ซี.ปาร์ค ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ระหว่างนายทักษิณ กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ (ในเวลานั้น) ซึ่งนายทักษิณได้สั่งการผ่าน Skype ให้แต่งตั้ง พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ (ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 38) มาเป็นเลขานุการรัฐมนตรี และสั่งการชัดเจนว่า "เรื่องการระบายข้าว ให้เป็นหน้าที่ของพ.ต.วีระวุฒิ" หลังการ Skype เสร็จ นายบุญทรงได้เดินออกจากห้อง และเจอนางเยาวภา จึงมีการแจ้งให้นางเยาวภาทราบ ซึ่งนางเยาวภาก็รับทราบ และกำชับให้ดำเนินการตามนั้น
พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นว่า ทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนางเยาวภา ได้รับรู้และรับทราบเรื่องการระบายข้าว ร่วมกับนายทักษิณ เพราะปรากฏว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการแต่งตั้ง พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ ทำหน้าที่เป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ทำให้ พ.ต.วีระวุฒิ มีบทบาทและชี้นำการระบายข้าว ที่สำคัญ พ.ต.วีระวุฒิ ยังเคยทำงานอยู่ที่บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด (ผู้ถูกกล่าวหาลำดับที่ 21) อีกด้วย
สำหรับฐานความผิดนั้น ถือว่า มีการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ พ.ศ.2542