กป.อพช.จี้สนช.หยุดพิจารณากฎหมายภายในก.พ.
การเมือง
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่ม กป.อพช.ที่ให้สนช.ยุติบทบาทนั้นคงไม่สามารถทำได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้สนช.ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐสภาชุดใหม่ อย่างไรก็ตาม การทำงานของสนช.ตามที่ตกลงไว้ คือ จะพิจารณาร่างกฎหมายไปจนถึงวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งมีร่างกฎหมายบรรจุไว้ในระเบียบวาระประมาณ 20 ฉบับ หลังจากนั้นอาจเรียกประชุมได้แต่ต้องเป็นประเด็นที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
จากนั้นเวลา 12.45 น. นายพรเพชรได้ลงมารับหนังสือจากตัวแทนกลุ่มกป.อพช.ประมาณ 30 คนด้วยตัวเอง ที่บริเวณโถงทางเข้าอาคารรัฐสภา ทั้งนี้ ภายหลังการยื่นหนังสือนั้น ผู้หญิงซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มกป.อพช.รายหนึ่ง ได้ก้มลงกราบนายสมชายกับพื้นด้วย
นายพรเพชร กล่าวว่า การให้สนช.ลาออกนั้น องค์ประกอบอำนาจนิติบัญญัติถ้าขาดไปจะขาดความเป็นรัฐในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งยังมีภารกิจหลายเรื่อง อาทิ กฎหมายข้อตกลงระหว่างประเทศ ที่เรามีหน้าที่ดูแลฝ่ายบริหารให้ปฏิบัติตามกฏหมายหลายอย่าง ดังนั้น ต้องเข้าใจว่ากฎหมายที่สนช.กำลังพิจารณาในขณะนี้เป็นกฎหมายที่ผ่านวาระที่ 1 แล้ว และมีกฎหมายหลายฉบับที่หากปล่อยไว้จะกระทบต่อรัฐ เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับการเดินอากาศ การประมง กฎหมายเกี่ยวกับการดูแลบุคคลสูญหาย การทรมานบุคคล นอกจากนี้ เรามีพันธสัญญากับต่างประเทศที่ต้องดูแล จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องทำ อีกทั้งก่อนจะมีรัฐบาลใหม่ หรือมีรัฐชุดสภาใหม่ ต้องใช้เวลาที่ยาวนาน ดังนั้น สิ่งที่เราทำจึงเป็นการพิจารณากฎหมายที่มีความสำคัญทั้งสิ้น ทั้งนี้ กฎหมายหลายฉบับที่รัฐบาลประสานมานั้น สนช.ได้ปฏิเสธ เพราะเรารับเฉพาะกฏหมายที่สำคัญ เพราะคิดว่าหากทำด้วยเจตนาดี และมีความรอบคอบ ก็น่าจะเป็นประโยชน์
นายพรเพชร ยังกล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วยว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นสิ่งที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตนเคยเรียกร้องมาเป็น 10 ปีแล้ว ดังนั้น การเรียกร้องว่าให้ยุติการพิจารณาร่างกฎหมายนี้ ตนอยากถามกลับว่า จะยุติกฎหมายดีๆ แบบนี้ทำไม.