9จว.เหนือเร่งแก้หมอกควัน สั่งห้ามเผาเด็ดขาด!
การเมือง
Webmaster
2019-02-27 15:26:00
42
Webmaster
2019-02-27 15:26:00
42
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สถานการณ์หมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ ประจำวันที่ 27 ก.พ.เมื่อเวลา 09.00 น. คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ บริเวณ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองส่วนใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 41 - 95 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) และ ค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 60 - 117 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.) ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai
นายประลอง กล่าวว่า ทั้ง 9 จังหวัดต่างระดมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดไฟอย่างเต็มที่ โดยเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่าทางกองทัพภาคที่ 3 ได้นำระบบป่าเปียกมาทำฝายชะลอน้ำ สร้างความชุ่มชื้นอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้จัดกำลังภาคพื้นลาดตระเวน ตรวจพบการลักลอบเผาป่าและเข้าดับไฟ พร้อมเครื่องบิน MI 17 เข้าปฏิบัติในการทิ้งน้ำดับไฟป่าที่ดอยสะเก็ด จัดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จัดอากาศยานขึ้นบินทำฝนหลวง รวมทั้งทาง กองการบิน สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้นำเฮลิคอปเตอร์เข้ามาเพื่อช่วยในการดับไฟป่า และได้มีการเสริมเครื่องฟอกอากาศด้วยม่านน้ำ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ทั้งนี้ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ยังพบการลักลอบเผาในพื้นที่รกร้างริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 และหมายเลข 1099 ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า อ.สารภี และอ.อมก๋อย ได้ประสานงานนำรถยนต์บรรทุกน้ำทำการควบคุมเพลิงจนสงบ พื้นที่เสียหายรวมประมาณ 80 ไร่ ไม่พบตัวผู้กระทำความผิด
นายประลอง กล่าวว่า ในการปฏิบัติดับไฟป่า ทาง สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 - 4 กรมป่าไม้ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 - 16 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้นำกำลังพลมาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดหน่วยเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง และประชาสัมพันธ์การห้ามเผาอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้ดำเนินการฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศและลดผลกระทบจากฝุ่นละออง อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดเว้นการเผาป่า เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เผาขยะ เผาวัชพืชริมทาง และเผาในพื้นที่โล่งแจ้งทุกกรณี ตามช่วงเวลาห้ามเผาในแต่ละจังหวัดโดยเด็ดขาด ต่อไป.
นายประลอง กล่าวว่า ทั้ง 9 จังหวัดต่างระดมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดไฟอย่างเต็มที่ โดยเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่าทางกองทัพภาคที่ 3 ได้นำระบบป่าเปียกมาทำฝายชะลอน้ำ สร้างความชุ่มชื้นอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้จัดกำลังภาคพื้นลาดตระเวน ตรวจพบการลักลอบเผาป่าและเข้าดับไฟ พร้อมเครื่องบิน MI 17 เข้าปฏิบัติในการทิ้งน้ำดับไฟป่าที่ดอยสะเก็ด จัดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จัดอากาศยานขึ้นบินทำฝนหลวง รวมทั้งทาง กองการบิน สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้นำเฮลิคอปเตอร์เข้ามาเพื่อช่วยในการดับไฟป่า และได้มีการเสริมเครื่องฟอกอากาศด้วยม่านน้ำ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ทั้งนี้ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ยังพบการลักลอบเผาในพื้นที่รกร้างริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 และหมายเลข 1099 ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า อ.สารภี และอ.อมก๋อย ได้ประสานงานนำรถยนต์บรรทุกน้ำทำการควบคุมเพลิงจนสงบ พื้นที่เสียหายรวมประมาณ 80 ไร่ ไม่พบตัวผู้กระทำความผิด
นายประลอง กล่าวว่า ในการปฏิบัติดับไฟป่า ทาง สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 - 4 กรมป่าไม้ และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 - 16 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้นำกำลังพลมาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดหน่วยเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง และประชาสัมพันธ์การห้ามเผาอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้ดำเนินการฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศและลดผลกระทบจากฝุ่นละออง อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดเว้นการเผาป่า เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เผาขยะ เผาวัชพืชริมทาง และเผาในพื้นที่โล่งแจ้งทุกกรณี ตามช่วงเวลาห้ามเผาในแต่ละจังหวัดโดยเด็ดขาด ต่อไป.
