ยันศูนย์เด็กเล็กอปท.ไม่ปิดเทอม ไม่ขัดต่อกฎหมาย
การเมือง
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อปท. บางแห่ง มีเหตุผลและความจำเป็นที่ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตลอดปีงบประมาณ โดยมีข้อจำกัด เช่น ขาดแคลนบุคลากร หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวก สถ. ก็ได้ชี้แจงแล้วว่า นโยบายการเปิดการเรียนการสอนตลอดทั้งปีงบประมาณ โดยไม่มีการปิดการเรียนการสอนของ สถ.นั้น เป็นเพียงการขอความร่วมมือจาก อปท. ไม่ใช่กฎหรือมาตรการบังคับ ดังนั้น หาก อปท.ใดมีเหตุผลและความจำเป็นที่ไม่อาจเปิดการเรียนการสอนได้ตลอดปีงบประมาณ ทางผู้บริหาร อปท. ก็สามารถใช่ดุลพินิจที่จะปิดภาคเรียนได้ เพราะอำนาจสุดท้ายในการตัดสินใจเป็นของ อปท. ตามหลักกระจายอำนาจในการปกครองตนเอง ทั้งนี้ ข้อจำกัดต่างๆ ของ อปท. นั้น ทาง อปท. สามารถใช้งบประมาณที่มีอยู่ในการจัดหาครุภัณฑ์ที่ต้องใช้ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ หรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเอง ก็สามารถขออนุมัติใช้เงินรายได้สะสมที่มีอยู่เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วยเช่นกัน
นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ได้มีหนังสือแจ้งกลับมายังสถ.แล้ว ถึงกรณีการร้องเรียนดังกล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ อปท. มีพื้นฐานแนวคิดที่ความมุ่งหมายจะแบ่งเบาภาระผู้ปกครองในการดูแลเด็กเล็ก โดยภารกิจดังกล่าวได้รับการถ่ายโอนมาจากส่วนราชการต่างๆ ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน กรมการศาสนา สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ประกอบกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้รับการจัดสรรงบประมาณค่าอาหารกลางวันครอบคลุมไปถึงช่วงปิดภาคเรียน จึงเห็นได้ว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไม่ได้มีจุดกำเนิดหรือวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้น การที่ อปท. กำหนดนโยบายให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเปิดการเรียนการสอนตลอดทั้งปีงบประมาณ จึงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ อปท. ใดมีเหตุผลและความจำเป็นที่ไม่อาจเปิดการเรียนการสอนตลอดทั้งปีงบประมาณได้ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ก็ยังสามารถใช้ดุลพินิจที่จะปิดภาคเรียนได้ด้วย ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ถือว่าสถ.ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่ และอำนาจตามกฎหมาย ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือไม่เป็นธรรมแก่ประชาชน ทางผู้ตรวจการแผ่นดินจึงสั่งยุติเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน.