กกต.ขู่'นักร้องเรียน'ยื่นเรื่องเท็จ เข้าข่ายหมื่นประมาทโทษจำคุก
การเมือง
Webmaster
2019-02-28 15:55:00
8
Webmaster
2019-02-28 15:55:00
8
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.กล่าวถึงกรณีที่ผู้สมัครส.ส.เขต 3 จังหวัดตรัง พรรคอนาคตใหม่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับตัวตามหมายจับคดีค้างเก่าฉ้อโกงหลังไม่ไปรายงานตัวต่อศาล ว่า กรณีนี้ผู้สมัครยังไม่ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุดโดยตามมาตรา 98 (6) ของรัฐธรรมนูญระบุว่าต้องมีการพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังโดยหมายของศาลก่อนจึงถือว่าขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้สมัคร
เมื่อถามถึง กรณีถ้าหากในวันที่ 7 มี.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอาจจะส่งผลให้บัตรเสียเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในบัตรเลือกตั้งยังมีช่องลงคะแนนให้พรรค ทษช.ในเขตที่ส่งผู้สมัครอยู่ ซึ่งหากประชาชนเข้าคูหากากบาทเลือกผู้สมัครของพรรคทษช. ก็จะทำให้บัตรเลือกตั้งนั้นกลายเป็นบัตรเสียทันที อย่างไรก็ตามหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคทษช. ทางกกต.เองก็จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าถ้าหากประชาชรกากบาทเลือกผู้สมัครของพรรค ทษช.ก็จะถือว่าเป็นบัตรเสียทันที เช่นเดียวกับผู้สมัครของพรรคอื่นๆที่คาดคุณสมบัติการเลือกตั้งด้วย
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขอให้กกต.เปิดเผยรายชื่อกรรมการประจำหน่วยก่อนการเลือกตั้ง 15วัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า โดยปกติเป็นเรื่องของกกต.จังหวัดเป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งก็ทราบกันโดยทั่วไปอยู่แล้วส่วนที่มีการห่วงว่าจะมีการฮั้วกันระหว่างกรรมการประจำหน่วย และผู้สมัครในการนับคะแนนนั้น ความจริงแล้วในวันดังกล่าวจะมีการสังเกตการณ์และจับตามองจากหลายฝ่าย หากเห็นความไม่ชอบมาพากลก็จะมีการคัดค้านระหว่างนั้นอยู่แล้ว ทั้งนี้กกต.ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามหน่วยเลือกตั้งเหมือนการเลือกส.ว.เพราะการเลือกตั้งส.ส มีหน่วยเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า ในขณะนี้ได้มีผู้ร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งต้องมีการสอบปากคำในเรื่องที่ร้อง โดยจะดูว่ามีมูลมากพอที่จะตรวจสอบต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งอยากจะเตือนผู้ที่ร้องว่าถ้าร้องในเรื่องที่ไม่เป็นความจริงก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยความเท็จ ซึ่งจะมีโทษจำคุก และถ้าเรื่องที่มาร้องต่อกกต.ไม่เป็นความจริง ก็จะเข้าข่ายร้องเท็จอีก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีเกือบทุกครั้งในการเลือกตั้ง ดังนั้น กกต.จึงของแนะนำให้ว่าก่อนที่จะมาร้องก็ต้องพิจารณาให้ดี.
เมื่อถามถึง กรณีถ้าหากในวันที่ 7 มี.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอาจจะส่งผลให้บัตรเสียเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในบัตรเลือกตั้งยังมีช่องลงคะแนนให้พรรค ทษช.ในเขตที่ส่งผู้สมัครอยู่ ซึ่งหากประชาชนเข้าคูหากากบาทเลือกผู้สมัครของพรรคทษช. ก็จะทำให้บัตรเลือกตั้งนั้นกลายเป็นบัตรเสียทันที อย่างไรก็ตามหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคทษช. ทางกกต.เองก็จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าถ้าหากประชาชรกากบาทเลือกผู้สมัครของพรรค ทษช.ก็จะถือว่าเป็นบัตรเสียทันที เช่นเดียวกับผู้สมัครของพรรคอื่นๆที่คาดคุณสมบัติการเลือกตั้งด้วย
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขอให้กกต.เปิดเผยรายชื่อกรรมการประจำหน่วยก่อนการเลือกตั้ง 15วัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า โดยปกติเป็นเรื่องของกกต.จังหวัดเป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งก็ทราบกันโดยทั่วไปอยู่แล้วส่วนที่มีการห่วงว่าจะมีการฮั้วกันระหว่างกรรมการประจำหน่วย และผู้สมัครในการนับคะแนนนั้น ความจริงแล้วในวันดังกล่าวจะมีการสังเกตการณ์และจับตามองจากหลายฝ่าย หากเห็นความไม่ชอบมาพากลก็จะมีการคัดค้านระหว่างนั้นอยู่แล้ว ทั้งนี้กกต.ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามหน่วยเลือกตั้งเหมือนการเลือกส.ว.เพราะการเลือกตั้งส.ส มีหน่วยเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวต่อว่า ในขณะนี้ได้มีผู้ร้องเรียนเรื่องการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งต้องมีการสอบปากคำในเรื่องที่ร้อง โดยจะดูว่ามีมูลมากพอที่จะตรวจสอบต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งอยากจะเตือนผู้ที่ร้องว่าถ้าร้องในเรื่องที่ไม่เป็นความจริงก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยความเท็จ ซึ่งจะมีโทษจำคุก และถ้าเรื่องที่มาร้องต่อกกต.ไม่เป็นความจริง ก็จะเข้าข่ายร้องเท็จอีก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีเกือบทุกครั้งในการเลือกตั้ง ดังนั้น กกต.จึงของแนะนำให้ว่าก่อนที่จะมาร้องก็ต้องพิจารณาให้ดี.
