พปชร.ชงยาแรงลดภาษีบุคคลทุกระดับ10%
การเมือง
โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า ในนโยบายนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงภาษีบุคคลธรรมดาครั้งใหญ่ ซึ่งเราไม่ได้ทำเรื่องนี้มานานแล้ว โดนใจคนชั้นกลาวง มนุษยืเงินเดือน รวมถึงคน ที่เริ่มทำงานใหม่ คิดง่ายๆ จะส่งผลให้ คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 4หมื่น บาทต่อเดือน ก็ไม่ต้องจ่ายภาษี ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลเก็บรายได้ในส่วนนี้ประมาณปีละ 3-4แสนล้านบาท โดยทางพรรคพลังประชารัฐจะเสนอให้มีการ ขยายฐานภาษีโดยการสร้างผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี (SMEs) ทั้งประเทศจาก 3ล้านรายให้เป็น 5 ล้านราย ซึ่งจะช่วยขยายฐานภาษีและปฎิรูปโครงสร้างภาษีทั้งระบบให้เกิดประสิทธิภาพ ลดช่องโหว่ สะท้อนโครงสร้างเศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อมาชดเชย รายได้ที่หายไป
นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พรรคยังเสนอให้ในส่วนของพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นอาชีพของคนรุ่นใหม่ ได้รับการยกเว้นภาษีในช่วง 2 ปีแรกที่เริ่มประกอบกิจการ ซึ่งจะช่วยให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์เหล่านี้ สามารถตั้งตัวได้ โดยไม่มีภาระภาษีเข้ามาในช่วงเริ่มต้นและผู้ที่เพิ่งจบการศึกษา เริ่มทำงาน พรรคเสนอให้ได้รับการยกเว้นภาษี 5 ปีแรกนับจากวันเริ่มทำงาน ตรงนี้จะทำให้น้องๆ สามารถเริ่มต้นชีวิตได้ โดยมีเงินในกระเป๋ามาขึ้นในการผ่อนรถ ผ่อนบ้าน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในครอบครัว
นายกอบศักดิ์ กล่าวถึงการหาเสียงของพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายว่า พรรคพลังประชารัฐ มีความฮึกเหิม จากการลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ตามแผน “ 30วันคาราวานสร้างชาติกับพลังประชารัฐ” ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากพี่น้องประชาชน ที่เข้ามาร่วมในการฟังปราศรัยอย่างล้นหลาม โดย เราได้ไป ที่จ.ชัยนาท จ.นครราชสีมา จ.สุรินทร์ จ.อุบลราชธานี และต่อไปจะเวียนไปตามภาคอื่นๆ โดยประชาชนให้การตอบรับที่ดี กับ 3 ประเด็นคือ 1.การเสนอชื่อ “ลุงตู่” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค 2.นโยบายที่โดนใช้ อาทิ การขยายผลบัตรประชารัฐ ส.ป.ก.4.0 การแก้ไขปัญหา ภบท.5 การเพิ่มการอุดหนุนชาวนา เป็น 20ไร่ๆละ2,000 บาท นโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดา ร้อยละ 10 ทุกขั้น เป็นต้น และ3.ผู้สมัครของพรรค ที่ “เข้าถึง พึ่งได้” ซึ่งมีทั้งอดีต ส.ส. และคนรุ่นใหม่
นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ผู้บริหารพรรคพอใจในความก้าวหน้า จากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วเราเป็นพรรคการเมืองใหม มีคนรู้จักน้อยกว่า ร้อยละ 5 และมีคนเลือกไม่มากนัก ในปัจจุบันหลังจากได้ลงพื้นที่ทุกๆ เขตและทุกๆวัน หานโยบายที่ดีๆ ทีโดนใจ เสียงตอบรับได้ทำให้ โพล บางโพล เช่น รังสิตโพล ที่ผลสำรวจออกมาพรรคพลังประชารัฐได้เป็นลำดับ 1 ตรงนี้เป็นกำลังใจให้กับทุกๆ คน แต่ว่า เราจะทำงานให้มากกว่านี้ และจะไม่ชนะเพียงแค่ช่วงจมูกเท่านั้น
โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า ในเดือนมี.ค.นี้ โชคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้ตอบกลับมาที่พรรคว่า “ลุงตู่” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐสามารถลงพื้นที่และให้กำลังใจผู้สมัครส.ส.ของพรรคได้ ซึ่งทำให้ทุกคนมีกำลังใจและฮึกเหิมขึ้นอีก และมาในช่วงโค้งสำคัญ ซึ่งน่าจะทำให้คนที่ชื่นชอบผลงานของ “ลุงตู่”ให้การสนับสนุนผู้สมัครส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐยิ่งขึ้น
“ทางพรรคมั่นใจว่าพรรคน่าได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150คน เพราะในช่วงที่ผ่านมา แค่คนที่รัก “ลุงตู่” ในทุกโพล ก็มีไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 26-30 ซึ่งถ้าทางพรรค สามารถเปลี่ยนความรักที่ประชาชนมีให้กับ “ลุงตู่” เป็นคะแนนเสียงได้และรวมกับคนที่ชอบนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ชอบผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ ก็เชื่อว่าเราจะได้ส.ส.ตามเป้าอย่างแน่นอน” โฆษกพรรคพลังประชารัฐ.