'ภูมิใจไทย' ประกาศตัวเป็นสายเขียว 'พรรคกัญชา'
การเมือง
“ผมเห็นว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะนำเอากัญชา ไปสกัดเป็นสารเพื่อเอาไปทดลองในคนป่วย แล้วบอกว่า จะนำมาขายในราคาแบบไทยๆ เห็นบอกว่า ซีซี ละ 100-200 บาท ทั้งที่ขณะนี้มีคนหรือปราชญ์ชาวบ้านทำในตลาดล่าง ตลาดมืด ก็ซีซีละ 100 บาท 1 ลิตร 1,000 ซีซี คือ 1 แสนบาทแล้วใครจะมาซื้อ ใครเป็นคนซื้อ เป็นการบังคับคนซื้อ เรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นเหมือน พ.ร.บ.เหล้า รัฐบาลมีความพร้อมมีองค์กรเภสัช มี อย. ทำไมรัฐบาลจะมาทำเองทำไมไม่เป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกร แต่มาทำเองแล้วมาขายให้ชาวบ้าน ทำไมทำแบบนั้น ทำไมไม่ให้ชาวบ้านปลูกแล้วขายให้รัฐ รัฐเอาไปแปรรูป ที่เราให้ปลูกได้แค่ 6 ต้น เอาไว้ใช้เองได้ด้วย เหลือก็เอาไปขาย รัฐเป็นพี่เลี้ยงว่าจะให้ปลูกพันธุ์แบบไหน จะให้ปลูกระบบแบบใด ผมว่าอย่าไปดูถูกชาวบ้านว่าชาวบ้านปลูกไม่ได้ จะมีเศรษฐีเท่านั้นหรือที่ปลูกได้”เลขาธิการพรรคภูมอใจไทย กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นโยบายการปลูกกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ใช้ทางการแพทย์เชิงพาณิชย์ ใช้สันทนาการที่บ้าน และใช้ประกอบอาหาร อย่างไรก็ดีที่ทางพรรคภูมิใจไทย เสนอให้ครอบครัวมีการปลูกได้ 6 ต้น ที่เสียค่าใบอนุญาตต้นละ 30 บาท สามารถจะไปรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนและปลูกรวมได้ ซึ่งโครงสร้างนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ได้ทำมาหมดแล้วเหมือนแคลิฟอร์เนียโมเดลทั้งหมด เช่น ปลูกใช้ในบ้านได้ หรือจะปลูกรวมกันเป็นเชิงพาณิชย์ เพื่อที่จะขายให้กับรัฐ ซึ่งรัฐจะต้องเป็นพี่เลี้ยง เรามีมหาวิทยาลัยราชภัฏ มีสถาบันการศึกษา เยอะมาก ยังไม่รวมปราชญ์ชาวบ้าน ที่ทำเรื่องนี้ ตำรับยาแพทย์แผนไทยมี 200-300 ตำรับ แต่ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข รองรับเพียง 20 ตำรับ ซึ่งหายไปเยอะ จึงมีคำถามตามมาว่า เกิดอะไรขึ้น
“ที่จริงประเทศไทยเคยมีการส่งกัญชามาก่อนปี 2505 แล้ว ประเทศไทยสามารถที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้มากมายโดยใช้กัญชาเป็นส่วนประกอบ อย่างต่างประเทศมีการใช้ผสมสปาเก็ตตี้ ไอศกรีม ซึ่งจริงๆต่างประเทศได้มีการทำมานานแล้ว กัญชาไม่ได้มีพิษ ไม่ใช่ยาเสพติด อย่างที่คนอื่นคิด ถ้าหากเป็นยาเสพติดจริงจะต้องแสดงอาการออกมา เช่น บุหรี่ หรือ กาแฟ ที่คนไม่สูบ หรือไม่ได้ดื่มก็จะกระวนกระวาย จากผลการวิจัยพบว่า กัญชาไม่มีความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากผูเสพ ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยไม่เสนอนโยบายกัญชาเสรี สิ่งที่จะเกิดขึ้นเรื่องกัญชาก็จะไม่ต่างกับเรื่องเหล้า และเบียร์ ที่มีนายทุนผูกขาด และประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ ถ้าปล่อยให้นายทุนผูกขาดแต่ผู้เดียวแบบนี้ ถือว่าประเทศนี้ แย่มากๆกับความคิดแบบนี้ ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชน” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวและว่า กัญชา สามารถปลูกในระบบเปิดได้ ไม่ต้องปลูกในระบบปิด ต้องไปสร้างด้วยงบประมาณถึง 10 ล้านบาท ได้ หากให้ประชาชนปลูกครอบครัวละ 6 ต้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย คือเราจะมีค่าธรรมเนียมต่าง ๆรวมเป็นเงินประมาณ 3แสน 3พัน ล้านบาท ซึ่งนี่ก็คือคำตอบของคำถามว่าจะเอาเงินมาจากไหน มาใช้กับนโยบายของพรรคภูมิใจไทย 12 เรื่อง ที่ต้องใช้เงินประมาณ 9 หมื่นล้าน ที่เหลืออีก 2 แสน จะนำไปลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก ร้อยละ7เหลือ ร้อยละ 5 เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้ประโยชน์ในเรื่องกัญชา และเรากล้าที่จะแสดงว่าเราคือ “พรรคกัญชา”.