ข่าว'สุวัจน์' นำทัพผู้สมัครสส.กทม.ชพน.ลุยหาเสียงตลาดสำเพ็ง - kachon.com

'สุวัจน์' นำทัพผู้สมัครสส.กทม.ชพน.ลุยหาเสียงตลาดสำเพ็ง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 มี.ค. ที่ตลาดสำเพ็ง  นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคชาติพัฒนา ลงพื้นที่ตลาดสำเพ็ง ซึ่งเป็นแหล่งค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกทม. เพื่อแนะนำตัวผู้สมัครส.ส.กทม. และแนะนำนโยบาย 9 สมาร์ท ซิตี้ พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถหาเสียง โดยได้รับความสนใจจากพ่อค้าแม่ค้า พี่น้องประชาชนผู้มาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างคึกคัก มีการให้ดอกไม้ ขอถ่ายรูป และสวมกอดตลอดเส้นทางการเดินบริเวณตลาดสำเพ็ง



ทั้งนี้นายสุวัจน์ กล่าวว่า กทม. เป็นเมืองที่ประชาชนอาศัยมากที่สุด และเป็นเมืองหลวงที่ติดอันดับโลกจึงมีความสำคัญในด้านการลงทุนและการท่องเที่ยว ดังนั้นเราต้องทำให้กทม.เป็นเมืองที่ทันสมัย และเป็นเมืองที่มีความปลอดภัย พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีต่างๆมาใช้พัฒนาเมือง การจราจรและการขนส่งต่างๆต้องมีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย ซึ่งพรรคได้เห็นความสำคัญของกทม. ที่ผ่านมาพรรคเราไม่มีผู้แทนราษฎรในกทม. ดังนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งก็ถือเป็นโอกาสของพรรคน้องใหม่ในพื้นที่กทม. ที่มาเสนอตัวเพื่อเป็นทางเลือก ตนมั่นใจว่านโยบายของพรรคในการสร้างกทม.ด้วยนโยบาย 9 สมาร์ทเพื่อให้กทม.เป็นสมาร์ทซิตี้ ตนคิดว่าพรรคเราจะได้รับการยอมรับ เพราะทุกที่ที่ส่งผู้สมัครก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มีความรู้สึกมีกำลังใจในพื้นที่กทม. ส่วนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ยังไม่ได้ประกาศรับรองคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขต 1 เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่ายและสัมพันธวงศ์ของพรรคนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แม้ว่าผลจะออกมาอย่างไรเราก็ยอมรับ



เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสเรียกร้องให้พรรคการเมืองรวบรวมเสียงข้างมากในสภาฯเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เพื่อแข่งขันกับพรรคพลังประชารัฐที่ถูกมองว่ามีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เป็นฐานเสียง นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาไม่มีปัญหา no problem ตอนนี้สถานการณ์ยังไปไม่ถึงขณะนั้น วันนี้ทุกพรรคยังเน้นเรื่องการทำประชานิยมและการหาเสียงให้มากที่สุด เพราะว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกออกแบบมาพิเศษกว่าทุกครั้ง เนื่องจากทุกคะแนนเสียงมีความหมาย ซึ่งเราต้องดูกันก่อนว่าสถานการณ์จะนำไปสู่จุดไหน อย่างไรก็ตามพรรคชาติพัฒนามีจุดยืนคือการไม่สร้างปัญหา ไม่สร้างความขัดแย้ง  ไม่สร้างเงื่อนไขทางการเมืองและไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เพราะการที่มีเงื่อนไขทางการเมืองมากจะทำให้เกิดบรรยากาศที่อึดอัด เราอยากเห็นบรรยากาศการเมืองที่มีความปรองดอง เราไม่ได้บอกว่าจะอยู่ฝั่งนั้นฝั่งนี้ แต่เราจะอยู่กับประชาชน



เมื่อถามว่าช่วงโค้งสุดกังวลหรือไม่ที่จะมีบางฝ่ายเล่นนอกเกมทางการเมือง และกฎกติกา นายสุวัจน์ กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกัน ซึ่งในส่วนของพรรคชาติพัฒนาได้กำชับให้ทุกคนอยู่ในกรอบกติกา เพราะเราต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่ยอมรับ หากเรารู้สึกว่าการเลือกตั้งผิดกติกา และไม่เป็นธรรม เดี๋ยวผลการเลือกตั้งออกมาทุกคนก็จะพูดเหมือนกันการเลือกตั้งไม่เรียบร้อยและไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เหมือนกับเลือกตั้งไปแล้วและไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกันอยู่ในกรอบกฎหมายและอยู่ในกติกาเพื่อให้ทุกคนมีความรู้สึกว่าแฟร์เพลย์ เหมือนกับการแข่งกีฬา ที่ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะก็มีการยอมรับ แต่ถ้ามีบรรยากาศที่มีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะเกิดความเหลื่อมล้ำทางการเมือง ซึ่งต้องช่วยกันรักษาจุดนี้



เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมจัดกิจกรรมให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่หาเสียงและปราศรัยนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนา no problem อยากเห็นทุกคนเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งและเข้าหาประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญชุดนี้ออกแบบให้ทุกคะแนนเสียงมีความหมายและการเลือกตั้งครั้งนี้ตนเชื่อว่าจะมีพรรคการเมืองเล็กๆเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเมื่อก่อนเรามีเพียงแต่พรรคใหญ่ และพรรคขนาดกลาง แต่ต่อไปเราจะมีพรรคเล็กอีกมากมาย ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้พรรคการเมืองเกิดขึ้นได้ง่ายและประชาชนมีส่วนร่วม  เมื่อทุกคะแนนมีความหมายทุกพรรคการเมืองก็ต้องไปพยายามปราศรัยและพบพี่น้องประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี.