ข่าว'อุตตม'แจงชาวอุบลฯปัดค้ามนุษย์ซื้อตัวคนพรรคอื่น - kachon.com

'อุตตม'แจงชาวอุบลฯปัดค้ามนุษย์ซื้อตัวคนพรรคอื่น
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.เวลา 10.30 น.ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาตร์การเลือกตั้งภาคกลาง นายสุพล ฟองงาม แกนนำจ.อุบลราชธานี  พร้อมผู้สมัครส.ส.อุบลราชธานี เปิดเวทีปราศรัยโดยมีประชาชนร่วมรับฟังกว่า 1.5 หมื่่นคน 
 
นายอุตตม ปราศรัยว่า อนาคตของประเทศอยู่ในมือของประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย พี่น้องทราบแล้วว่า อะไรเกิดขึ้นในประเทศในช่วงที่ผ่านมา แต่วันนี้เราต้องมองไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยต้องสงบ คนไทยมีความสุขอย่างแท้จริง ที่สำคัญต้องมีอนาคตที่สดใส เกษตรการต้องมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ใช่ลุ่มๆดอนๆ พรรคพลังประชารัฐเกิดใหม่ได้ 4 เดือน แต่พวกเราสู้ และทำเต็มที่ วันนี้เพราะความกรุณาขจากพี่น้องจึงทำให้พรรคมีพลัง พรรคพลังประชารัฐไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีใครสั่งการ เป็นการรวมตัวกันของคนจากหลากหลายฝ่ายที่มีความตั้งใจอยากเห็นบ้านเมืองไปข้างหน้า มีคนจากพรรคอื่นขู่ฟ้องผมกับพรรคพลังประชารัฐกล่าวหาว่าค้ามนุษย์ เพราะไปซื้อตัวคนอื่นจากพรรคอื่นมา ทั้งที่ไม่เป็นความจริง คนที่เข้ามาด้วยใจ และต้องการก้าวข้าวความขัดแย้ง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐถือเป็นกุญแจสำคัญ ในการเดินไปสู่จุดนั้น เพราะวันนี้เราเรียนรู้จากอดีตเพื่อเดินต่อไปข้างหน้า บ้านเมืองสงบ ปรองดอง  วันนี้เราต้องมองไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยต้องสงบ คนไทยมีความสุขอย่างแท้จริง ความสงบสุข เกี่ยวข้องกับปากท้อง ยิ่งสงบ ยิ่งมั่นคง เศรษฐกิจก็ยิ่งดี
 
นายอุตตม กล่าวว่า หากพี่น้องให้โอกาสพรรคพลังประชารัฐเข้าไปบริหารประเทศ พรรคจะขับเคลื่อนนโยบายต่างๆเพื่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะภาคการเกษตรอย่างชาวนา ด้วยการช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000บาท จำนวน 20 ไร่ เพิ่มบัตรประชารัฐให้คนไทย14.5 ล้านใบ แต่ยังมีคนที่ตกสำรวจอีก 2-3 ล้านคน เราจะออกบัตรให้ทันที เพื่อให้เข้าถึงสวัสดิการที่จำเป็น แม้ไม่ได้ทำให้ร่ำรวย แต่สามาารถช่วยในการดำรงชีวิต นอกจากนั้นจะขยายบัตรประชารัฐไปสู่กลุ่มคนไทยคนอื่น ๆที่จำเป็น พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี  โครงการมารดาประชารัฐ ที่ดูแลตั้งแต่ต้นทางเพราะเด็กที่อยู่ในครรภ์มารดาเป็นช่วงสำคัญ ด้วยการดูแลตั้งแต่ตั้งครรภ์ เดือนละ 3,000 บาท 9 เดือน ช่วยค่าคลอด1 หมื่นบาท ค่าเลี้ยงดูจนถึง 6 ปี เดือนละ 2,000 บาท รวม181,000 บาท เราให้กับการตั้งครรภ์ทุกครั้ง เพราะคือการลงทุนสำหรับอนาคตประเทศ
 
“ทุกนโยบายทำได้จริง ทำได้ทันทีและเรายังได้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลใหม่ไม่เหมือนรัฐบาลปัจจุบันเพราะมาจากการเลือกตั้ง เพราะมีตัวแทนประชาชนเข้าไปทำหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์อาจจะเป็นคนเดิม แต่รัฐบาลคือรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากกการเลือกตั้ง ดังนั้นพรรคจึงมีจุดยืนในการก้าวสู่ประชาธิปไตยเพื่อคนไทยทั้งหมด ไม่ใช่ประชาธิปไตยของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเหมือนที่ผ่านมา จึงขอให้พี่น้องไว้วางใจพรรคพลังประชารัฐเลือกยกจังหวัด”นายอุตตม กล่าว




ด้านนายสุพล ปราศรัยว่า ก่อนที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้ามาบริหาร เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ทั้งการปิดถนน  เผาบ้านเผาเมือง ล้มการประชุมอาเซียน  ยึดสนามบิน เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างประชาชนสองฝ่าย นำไปสู่การบาดเจ็บล้มตาย วนเวียนเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ตนอยู่ในบ้านหลังนั้นเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง จึงตัดสินใจ ออกมาเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า ก้าวข้ามความขัดแย้ง บ้านเมืองต้องสงบ และปรองดอง  วันนี้สำนึกผิดที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย จึงขอโทษพี่น้องประชาชนด้วย  และขอชี้แจงว่าอย่าไปหลงวาทกรรมที่ใช้โจมตีพรรพลังประชารัฐ โจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่าไปโทษคนปฏิวัติ แต่ต้องโทษคนสร้างปัญหาจนนำมาสู่การปฏิวัติ ถ้าเสื้อเเหลือง เสื้อแดง ไม่ตีกัน พล.อ.ประยุทธ์ จะยึดอำนาจหรือไม่  พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สืบทอดอำนาจ เพราะขณะนี้อำนาจอยู่ในมือพี่น้องประชาชนในการกำหนดอนาคตประเทศ จะเลือกใครก็เป็นสิทธิ แต่หากเลือกพรรคเดิม บ้านเมืองก็จะเป็นแบบเดิม ดังนั้นขอให้มาช่วยกันนำพาประเทศออกจากความขัดแย้ง

นายอนุชา ปราศรัยว่า ตนเคยเป็น ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากกรณียุบพรรค จนกระทั่งวันหนึ่งตัดสินใจก้าวเดินออกมาสังกัดพรรคเล็ก เพราะบ้านเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟ จากคนที่ต้องการอำนาจ ด้วยการนำความรักความศรัทธาของประชาชนไปต่อสู้บนถนน เกิดการเข่นฆ่า พี่น้องคนไทยบาดเจ็บล้มตาย  ความขัดแย้งกินระยะเวลานานกว่า  10  ปี จนกระทั่งวันนี้วันที่เห็นแสงสว่างจากความสงบสุข ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เข้ามาแก้ปัญหา เข้ามากอบกู้หลายสิ่งหลายอย่างบนซากปรักหักพัง กอบกู้เศรษฐกิจที่พังเสียหายจากความขัดแย้งจนประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากนั้นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ยังได้มาร่วมกับคนทุกกลุ่มจัดตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือก เป็นแสงสว่าง ในการนำพาบ้านเมืองพ้นจากความขัดแย้ง ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ชาวไรชาวนาลืมตาอ้าปาก เพราะประชาชนคือสิ่งสำคัญสำหรับพรรคพลังประชารัฐ.