ข่าว'สนธิรัตน์'อ้อนชาวหนองแขม-บางบอน ชูลบภาพเมืองนักเลง - kachon.com

'สนธิรัตน์'อ้อนชาวหนองแขม-บางบอน ชูลบภาพเมืองนักเลง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. เวลา 07.30น. ที่ตลาดเช้าวัดหนองแขม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)พร้อมด้วยนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้สมัคร เขต 26 บางบอน หนองแขม ลงพื้นที่พบปะประชาชน พ่อค้า แม่ค้า โดยได้รับความสนใจมากพอสมควร อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่วันนี้นายสนธิรัตน์และทีมงานผู้สมัครชูนโยบายบัตรประชารัฐหรือบัตรคนจนมาขอคะแนนเสียง โดยนายสนธิรัตน์ระบุว่า ตนเป็นคนต้นคิดและเป็นเจ้าของบัตรคนจน 14 ล้านคน ที่ทุกคนได้อานิสงค์ วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมเยืยนชาวตลาดหนองแขม และถ้าอยากปรับเปลี่ยนหนองแขมและบางบอนก็จะต้องเลือกคนของพรรคเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร โดยนายสนธิรัตน์กล่าวระหว่างเดินหาเสียงว่า “ถึงเวลาต้องเปลี่ยนบางบอน ถ้าไม่อยากให้บางบอนเป็นเมืองนักเลง หรือเมืองอิทธิพลก็ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผมเป็นคนริเริ่ม แต่พรรคอื่นกลับจะให้ยกเลิก”



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับป้ายหาเสียงที่ทีมงานของผู้สมัครใช้ในการเดินเท้าเพื่อพบปะประชาชนและขอคะแนนเสียงในวันนี้มีทั้งป้าย”เปลี่ยนคนเก่า “ “ไม่เอาคนเกเร” “เลือกคนใหม่” ซึ่งหลังจากเดินพบปะบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดวัดหนองแขม นายสนธิรัตน์และผู้สมัครได้แวะรับประทานข้าวต้มและโจ๊กร่วมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งได้รับฟังการสะท้อนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆจากชาวบ้านซึ่งบางส่วนได้ร้องทุกข์ถึงปัญหาภาพลักษณ์การเป็นเมืองนักเลงของย่านหนองแขม บางบอน รวมทั้งปัญหาเรื่องปากท้องและการค้าขาย โดยนายสนธิรัตน์ได้ยืนยันว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาก็จะสามารถคลี่คลายไปได้ทั้งนี้ถ้าเลือกพรรคพปชร.ก็จะมีการสานต่อบัตรพลังประชารัฐ การเพิ่มรายได้และแก้ปัญหาต่างๆในแต่ละพื้นที่ให้ดีขึ้น เนื่องจากพรรค พปชร.มีทีมงานของคนรุ่นใหม่ซึ่งมีแนวคิดต่างๆที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนทุกทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการลงพื้นที่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.หนองแขมมาสังเกตการณ์บริเวณตลาด พร้อมถ่ายรูปขณะนายสนธิรัตน์และทีมงานกำลังหาเสียงและรับประทานอาหารเช้า


จากนั้นนายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคพลังประชารัฐอาสามาทำให้กทม.ต้องดีกว่าเดิม การลงพื้นที่หนองแขมวันนี้เพื่อเป็นการรับฟังปัญหา และมาดูว่าในพื้นที่นี้จะเชื่อมโยงกับการทำงานของพรรคอย่างไร โดยจากที่ตนลงพื้นที่ต่างๆในกทม.พบว่าปัญหาใหญ่คือการขาดการเชื่อมโยง ระหว่างผู้นำชุมชนในพื้นที่กับผู้แทนในอดีต ซึ่งตรงนี้พปชร.จะใช้เป็นนโยบายหลัก ในการเชื่อมโยงแกนนำของชุมชน และปัญหาของพื้นที่ เข้าสู่การบริหารจัดการ และพรรคจะขับเคลื่อน แก้ปัญหาถ้าหากมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล ส่วนจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ ในเรื่องเมืองนักเลงอย่างไรนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มันเป็นความรู้สึกของชาวบ้านที่ไม่อยากให้คนมองว่าพื้นที่บางบอนและหนองแขมเป็นพื้นที่อิทธิพล ตนจึงบอกกับชาวบ้านว่าให้เชื่อมั่นว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น และเราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงให้ภาพลักษณ์นั้นไม่ใช่เป็นอย่างเดิม นี่คือเสียงความรู้สึกจากชาวบ้านว่าเขาอยู่ที่ตรงไหน ก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นก็จะรู้สึกไม่สบายใจ 



เมื่อถามว่า ประเมินตัวผู้สมัครอย่างไรบ้าง เพราะไม่เคยมีฐานเสียงมาก่อน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นายวัชระทำงานหนัก และยากพอสมควร แต่ด้วยความตั้งใจเขาเดินเข้าหาประชาชน ซึ่งขณะนี้เสียงตอบรับในตัวนายวัชระสูงมาก เพราะเขาอยากเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิมๆไปสู่สิ่งใหม่ๆนายวัชระจึงกลายเป็นความหวังใหม่ในพื้นที่ และตนมั่นใจว่าเวลาที่เหลือจนถึงวันเลือกตั้ง หากนายวัชระยังเดินเข้าหาประชาชนอย่างนี้ มั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในเขตนี้แน่นอน



"3 สัปดาห์สุดท้ายขอให้จับตาดูพรรคพลังประชารัฐให้ดีเพราะเราจะมีไม้เด็ดหลายเรื่อง ส่วนการเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาร่วมหาเสียงนั้นตอนนี้ทางพรรคกำลังหารือกันเรื่องนี้อยู่ ยืนยันว่าพรรคมีแผนและยุทธศาสตร์ในการหาเสียง และปราศรัยใหญ่ และหากจะเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มาช่วย ก็ต้องปรับให้เข้ากับแผนของพรรคและสอดรับกับตารางงานของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นสิ่งไม่ง่ายที่จะเชื่อมโยงกัน แต่พรรคกำลังทำเรื่องนี้กันอยู่ คาดว่า1-2 วันนี้จะได้คำตอบ" นายสนธิรัตน์ กล่าว.