ข่าว'ชพน.'ลุยหาเสียงตลาดนัดจตุจักร ชูกทม.เป็นสมาร์ทซิตี้ - kachon.com

'ชพน.'ลุยหาเสียงตลาดนัดจตุจักร ชูกทม.เป็นสมาร์ทซิตี้
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. เวลา 14.20 น. ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) พร้อมด้วยนายอดุลย์ เลาหพล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ พรรคชาติพัฒนา นำผู้สมัครส.ส.เขต 6 พญาไทจตุจักร นายณัฐปิยะ กุลจิรารวีนิภา พร้อมผู้สมัครเขตใกล้เคียง เขต 5 ห้วยขวาง-ดินแดง, เขต 7 ดุสิต-บางซื่อ, เขต 8 ลาดพร้าว-วังทองหลาง, เขต9 หลักสี่-จตุจักร และสมาชิกพรรค ลงพื้นที่รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งและเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค. โดยระหว่างการลงพื้นที่ได้พบกับกลุ่มผู้พิการทูตอารยสถาปัตย์ นำโดยนายกฤษณะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล โดยนายสุวัจน์และผู้สมัครส.ส. กทม. ได้เป็นผู้เข็นรถให้ผู้พิการ เพื่อร่วมกันตรวจสอบเส้นทางเพื่อปรับปรุงเป็นอารยสถาปัตย์ เพื่อให้กลุ่มคนพิการได้ใช้ประโยชน์มากขึ้น จากนั้นได้เดินทักทายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก



โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่า ทางพรรคมีนโยบายผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองทันสมัย สมาร์ทซิตี้ และสมาร์ทพีเพิล โดยต้องผลักดันมาตรการทางกฎหมาย การเชิญชวนและจูงใจให้ออกแบบพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ทางเท้าและราวจับ เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนพิการให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด โดยทางพรรคมองว่าอารยสถาปัตย์ควรกำหนดให้เป็นมาตรการสากลของประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างๆ ที่ควรเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ดูสภาพจริงและได้รับการบอกกล่าวจากผู้พิการ ก็เห็นตรงกันว่าต้องเร่งปรับปรุง โดยหลังการเลือกตั้งควรผลักกันให้เป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่หาเสียงในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประชาชาชนตื่นตัวทางการเมืองสูง และให้ความสนใจกับนโยบายมากกว่าที่ผ่านมา ถือเป็นอีกปฐมบทของการเมืองไทยที่ประชาชนต้องการการเมืองที่มีคุณภาพ ซึ่งหลังการเบือกตั้งทุกพรรคต้องทำให้นโยบายต่างๆ เกิดผลเป็นรูปธรรม



เมื่อถามว่า มองอย่างไรถึงการยื่นให้ตรวจสอบคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะทำให้การเลือกตั้งต้องสะดุดหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ตอนนี้การเลือกตั้งเป็นบรรยากาศที่ดีอยู่แล้ว ที่ทุกคนนับถอยหลังไปสู่วันที่ 24 มี.ค. ซึ่งทุกคนต้องสู้กันจะแพ้ชนะไม่เป็นไร แต่ประเทศไทยต้องชนะ จึงต้องสู้กันด้วยการนำเสนอนโยบาย ไม่ว่าใครแพ้ชนะไม่สำคัญ แต่ประเทศไทยชนะเพราะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ดีทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ รวมถึงประชาชนมีความหวังหลังการเลือกตั้ง.