'ปรีชาพล'เสียดายไร้โอกาสแจงศาล วอนมวลชนฟังคำตัดสินที่บ้าน
การเมือง
โดย ร.ท. ปรีชาพล ให้สัมภาษณ์ ถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ ว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมงานของพรรค ไม่ใช่การประชุมอย่างเป็นทางการ แต่ก็คงมีการหารือกันในการเตรียมความพร้อมรับฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคในวันที่ 7 มี.ค. นี้ รวมถึงหารือถึงท่าทีว่าพรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อ
ส่วนโทษของคดียุบพรรคที่อาจถึงขั้นเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิตนั้น ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า เป็นโทษที่พ่วงมากับคำร้องของกกต. ซึ่งหากมีการยุบพรรค กกต.ก็ต้องร้องขอให้มีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร ขณะนี้คณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนมีจุดยืนชัดเจน และได้แจ้งกับประชาชนไปแล้วว่าคณะกรรมการบริหารพรรคขอเน้นในการชี้แจงคดี ซึ่งเหลืออีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียง ทั้งกรรมการยุทธศาสตร์และกรรมการรณรงค์หาเสียง ก็ยังมีหน้าที่ที่ลงไปสื่อสารกับประชาชน และลงไปให้กำลังใจกับผู้สมัคร ทั้ง 175 เขตเลือกตั้ง ซึ่งการแยกกันทำงานก็เพื่อให้หลายฝ่ายสบายใจ และไม่อยากให้ใครนำเรื่องคดียุบพรรค ไปขยายหรือฉกฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเพราะปรารถนาที่จะเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.
“แนวทางในวันที่ 7 มี.ค. นี้กรรมการบริหารพรรคก็จะไปฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อผลออกมาอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ เพราะทุกคนอยู่ในประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งพรรคคือผู้ถูกกล่าวหา ก็ได้ทำเรื่องชี้แจงเป็นเอกสารไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ก็เกิดความเสียดายอยู่บ้างที่ไม่มีโอกาส ได้เข้าชี้แจงในฐานะพยาน ทั้งนี้ในส่วนของพยานเอกสารได้ชี้แจงค่อนข้างครบถ้วนแล้ว แต่ได้เห็นคำคัดค้านของกกต.ก็มีความไม่สบายใจอยู่บ้าง” ร.ท. ปรีชาพล กล่าว
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวอีกว่า สำหรับวันที่ 7 มี.ค.นี้ อยากสื่อสารไปถึงประชาชน ที่เมตตาและสนับสนุนพรรค และหลายคนไปถามหาตัวเองที่เวทีปราศรัย ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกเจ็บปวดที่พรรคมีการจัดเวทีปราศรัยแต่หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคไม่มีโอกาสได้ขึ้นบนเวที แต่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่ให้มีประเด็นใดๆที่จะมีคนมาฉกฉวยให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเราก็ต้องอดทนและรอคอย พร้อมยืนยันในเจตนาอันบริสุทธิ์ และความตั้งใจที่ดี ประชาชนที่สนับสนุนสามารถส่งกำลังใจมาให้กับพรรคได้แต่ขอว่าวันที่ 7 มี.ค.นี้ อยากให้ติดตามชมผลการวินิจฉัยอยู่ที่บ้าน เพราะตัวเองไม่มั่นใจว่าในวันนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงไม่อยากให้เกิดการสร้างสถานการณ์ นำเรื่องคดียุบพรรคไปทำให้เกิดความวุ่นวาย
หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ในฐานะพรรคการเมืองก็พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทุกประการเพราะได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ยืนยันไม่ได้คิดร้ายกับบ้านเมือง และจะไม่มีการเล่นนอกเกมหรือใต้ดินใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามสำหรับในวันที่ 7 มี.ค.นี้ ผู้ที่ถูกร้องสามารถเข้าฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ฝ่ายละ 6 คน และบุคคลทั่วไปอีก60 คน ซึ่งคิดว่าคณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนน่าจะไปฟังกันครบ
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.ท. ปรีชาพลระบุว่า ไม่ขอพูดถึงในรายละเอียด เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่เฉพาะคณะกรรมการบริหารพรรคยืนยันว่าจะไปร่วมฟังคำวินิจฉัย.