ข่าว'New Gen'ดันปฏิรูปการศึกษา เปิดพื้นที่ให้เด็กแสดงออก  - kachon.com

'New Gen'ดันปฏิรูปการศึกษา เปิดพื้นที่ให้เด็กแสดงออก 
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ ลานกิจกรรมชั้น LG สยามสแควร์วัน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จัดเวทีแสดงนโยบายด้านเด็กและเยาวชน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ “มุมมอง New Gen พรรคการเมือง กับเรื่องปิดเทอมสร้างสรรค์” โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอนหนึ่งว่า  พรรคประชาธิปัตย์ มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กตาม 7 รูปแบบ เช่น  สุขภาพดี มีทักษะการคิดวิเคราะห์ มีทักษะการพูด 2 ภาษา มีทักษะการใช้เทคโนโลยี ทั้งนี้เราจะเน้นปฎิรูปการศึกษาตั้งแต่ตนจนจบ  เช่น การกระจายอำนาจของโรงเรียน ให้กระทรวงศึกษาธิการ คำนวนเลยว่าจะให้งบประมาณกับโรงเรียน ที่มีจำนวนเด็กและคุณครูจำนวนต่างๆ เท่าไหร่ เพื่อให้มีความเหมาะสม และให้เขาบริหารจัดการงบประมาณเอง และ จะทำอย่างไรให้เอกชนเข้ามาช่วยพัฒนาเชื่อมโยงกับการศึกษาของภาครัฐได้  ในส่วนของปิดเทอมสร้างสรรค์ เราต้องแยกความต้องการของเด็กออกเป็นช่วงอายุ เช่น ช่วงประถมวัย อนุบาล  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาและการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การปิดเทอมของเด็กอายุระดับนี้มีความสร้างสรรค์คือทำอย่างไรให้เขามีโอกาสทำกิจกรรมสร้างสรรค์กับครอบครัวมากที่สุดซึ่งสิ่งที่เราทำได้คือการเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ที่เด็กและครอบครัวสามารถทำร่วมกันได้ ทั้งนี้ตนไม่อยากให้มองว่าช่วงปิดเทอมและช่วงเปิดเทอมเป็นอะไรที่แตกต่างกัน ตราบใดที่เราไม่ปฏิรูปให้ครูไม่กั๊กวิชาเพื่อหารายได้เพิ่มเติมจากการสอนพิเศษ ก็เป็นไปไม่ได้ที่เราจะคาดหวังให้เด็กไม่เรียนพิเศษและหันมาทำกิจกรรมที่ชอบ ดังนั้นการปฏิรูปการปิดเทอมที่สร้างสรรค์นั้น ต้องย้อนกลับมาที่การปฏิรูปการศึกษาด้วย 

ขณะที่ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  เรามองว่าเด็กและเยาวชนยังไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ดังนั้นเราจึงมีนโยบายในการพัฒนาเด็ก คือ 1.สนับสนุน พัฒนาการศึกษาปฐมวัย  2. เรียนฟรี 15 ปี ต้องฟรีจริง 3. เพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างพ่อแม่และเด็ก คืนโรงเรียนให้ครอบครัว ให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับเด็กและครู เพื่อเข้าใจลูก และวิวัฒนาการของเด็ก 4.เปลี่ยนจากท่องจำเป็น เข้าใจ สอนให้เด็กคิดนอกกรอบ  5. เพิ่มศักยภาพครู ลดงานธุรกิจ เอาเวลาให้ครูช่วยค้นหาตัวตนเด็ก 6.กระจายอำนาจการศึกษา ให้โรงเรียนต่างๆมีอำนาจในการเลือกสอนสิ่งที่เด็กในตำบลนั้นๆอยากเรียน และจำเป็นต้องรู้ 7. 1 วันต่อ 1 วิชาอนาคต เพื่อเป็นนายหุ่นยนต์ รองรับงานในอนาคต และ8. ทำโรงเรียนออนไลน์ อยู่ที่ไหนก็เรียนหนังสือได้ เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้เยาวชนไทย เป็นพลเมืองโลก นอกจากนี้การปิดเทอมสร้างสรรค์  

ด้าน น.ส.เยาวภา บุรพลชัย พรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาที่ตนพบเห็นในสังคมขณะนี้คือ ความเลื่อมล้ำของการศึกษา  คนจนไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ ทั้งนี้หากเรามีแนวแก้ปัญหาให้เด็กได้รับความเท่าเทียมจะเป็นสิ่งที่ดี นอกจากนี้ยังรวมถึงปัญหาช่องว่างระหว่างครอบครัว ทั้งนี้พรรคชาติพัฒนาเรามีนโยบายด้านการศึกษาที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน 4 ข้อ คือ 1. เด็กไทย 2 ภาษา 2. ทุนครูเทคโนโลยี อำเภอละ 1 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเด็กไทยให้เรียนทันเทคโนโลยี 3.พัฒนาเด็กให้เป็นนักคิด นักอ่าน และ 4. การทำไทยแลนด์โนว์เลท เซ็นเตอร์  ส่วนปิดเทอมสร้างสรรค์นั้น ตนอยากผลักดันในส่วนของค่ายเยาวชน จัดกิจกรรมต่างๆ ที่เด็กสนใจไม่ว่าจะเป็น กีฬา ดนตรี ศิลปะ สิ่งแวดล้อม หรือภาษาอังกฤษ รวมทั้งอยากเสนอกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัยรุ่นอย่างเช่นเด็กแว้น  ที่มีความเสี่ยงว่าจะเป็นปัญหาในสังคม โดยเราควรเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสสร้างพื้นที่ให้เขาในการมาแสดงออก เช่น การให้ความรู้ในเครื่องจักรกล หากเขาชอบตกแต่งมอเตอร์ไซค์ รวมถึงสอนการเป็นนักแข่งให้เขาด้วย แต่การที่จะกระจายกิจกรรมให้ควบคุมทั่วประเทศนั้นเราอาจจะต้องมานั่งคุยกันเป็นวาระแห่งชาติไปเลยว่า ในช่วงระยะเวลาปิดภาคเรียน ควรจะต้องร่วมมือกันทั้งรัฐและเอกชนเพื่อช่วยกันจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้น.