'กฤษฏา'โวยขรก.กษ.ทำงานสุดอืด! ตั้งกก.จำกัดสารพิษล่าช้า
การเมือง
Webmaster
2019-03-04 17:04:00
11
Webmaster
2019-03-04 17:04:00
11
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการวีดิโอคอนเฟอร์เรนท์ไปยังสำนักงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯทั่วประเทศ ว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ดูแลผลผลิตที่สำคัญ ข้าว ยางพารา และพืชเศรษฐกิจ ไม่ให้ราคาต่ำไปกว่าปัจจุบัน โดยเร่งรัดมาตรการช่วยเหลือเช่นยางพารา ขณะนี้เพิ่มการใช้ในภาครัฐ ทำถนนยางพาราซอยซีเมนต์ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ต้องดันราคาเกินกว่า50บาท พร้อมกับหารือกับภาคเอกชน เจ้าของบริษัทยางมะตอย กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท เห็นร่วมกันในแผนสร้าง -ซ่อม -เสริมถนน ปี62-63 ต้องมีส่วนผสมยางพารา 5% ต่อ1ตารางเมตร
รมว.เกษตรฯกล่าวอีกว่าช่วงเวลา3-4เดือนนี้ยังเดินหน้าปฏิรูปภาคเกษตร จัดระบบเกษตรแปลงใหญ่เข้าระบบโควตาเกษตรกรรม ซึ่งทุกวันนี้ต้องยอมรับปัญหาเกษตรไทย ผลิตคล้ายๆกัน เกษตรกรส่วนใหญ่อยู่ในวัยสูงอายุ แรงงานน้อยมีที่ว่างเปล่ามาก และมีหนี้สินมากกว่ารายได้ เพราะเกษตรกรใช้การผลิตทำเกษตรกรรมแบบเดิมๆ ใช้แรงงานเป็นหลัก ต่างคนต่างทำเกษตรซ้ำซาก แบบเชิงเดี่ยว จุดอ่อนอาจเกิดฝ่ายรัฐ ไม่จัดระบบใหม่ๆลงไป ที่ผ่านมากรมส่งเสริมเกษตร อบรมสมาร์ทฟาร์เมอร์ ได้ทำเกษตรแปลงใหญ่กว่า 5 พันแปลง ถามว่าเกษตรกรมีรายได้มากขึ้นหรือไม่ แตกต่างจากทำแปลงย่อยแบบเดิมอย่างไร เป็นประเด็นที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ต้องหาคำตอบ
นายกฤษฏา ยังกล่าวถึงการจำกัดการใช้สารเคมีอันตราย ว่า สำหรับแผนที่กระทรวงเกษตรฯขับเคลื่อนจะต้องเป็นแผนที่สามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรมและให้สาธารณะชนรับรู้และเอ็นจีโอ เข้าใจอย่างทั่วถึงด้วย ทั้งนี้ตนเครียดมากเนื่องจาก ผอ.กองกฎหมาย ไม่ส่งหนังสือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจำกัดใช้สารเคมี เรื่องนี้ต้องเร่งติดตามเพราะตนยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว โดยตนบอกหลายครั้งแล้วว่า เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ต้องเดินเรื่องเอง
"ถ้ามีเรื่องผิดพลาดผมไม่ยอม ถามกลับบ้างพวกเราไม่เจ็บปวดหรือที่โดนกล่าวหาว่าสนับสนุนนายทุน ผมสั่งแล้วไม่ใช่ปัดก้นไป ผมได้บอกวิธีทำงานอย่างละเอียดทุกขั้นตอนด้วยอย่างชัดเจนทุกเรื่อง และอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ต้องทำข้อปฏิบัติจำกัดการใช้สารเคมี มาถึงกระทรวง ไม่จำเป็นต้องรอกฎกระทรวง 5ฉบับ ต้องเร่งทำแผนปฏิบัติงานให้ชัดเจน อบรมผู้ใช้ ผู้จำหน่าย จำกัดผู้ซื้อ และส่งให้สาธารณะชน และเอ็นจีโอ ทราบแผนของกระทรวงด้วย ทั้งนี้แผนที่ร่างมากำหนดเวลา พื้นที่ หน่วยงาน ทำเกษตรปลอดภัย(จีเอพี) จำกัดโควตานำเข้า3สารเคมี จำกัดคนจำหน่าย คนใช้ อบรมที่ไหน ให้ชัดๆ ถ้าคนใช้ ไม่ทำตามกติกา จะลงโทษอย่างไร และหาสารที่ดีกว่ามีทดแทนหรือยัง”นายกฤษฏา กล่าว.
รมว.เกษตรฯกล่าวอีกว่าช่วงเวลา3-4เดือนนี้ยังเดินหน้าปฏิรูปภาคเกษตร จัดระบบเกษตรแปลงใหญ่เข้าระบบโควตาเกษตรกรรม ซึ่งทุกวันนี้ต้องยอมรับปัญหาเกษตรไทย ผลิตคล้ายๆกัน เกษตรกรส่วนใหญ่อยู่ในวัยสูงอายุ แรงงานน้อยมีที่ว่างเปล่ามาก และมีหนี้สินมากกว่ารายได้ เพราะเกษตรกรใช้การผลิตทำเกษตรกรรมแบบเดิมๆ ใช้แรงงานเป็นหลัก ต่างคนต่างทำเกษตรซ้ำซาก แบบเชิงเดี่ยว จุดอ่อนอาจเกิดฝ่ายรัฐ ไม่จัดระบบใหม่ๆลงไป ที่ผ่านมากรมส่งเสริมเกษตร อบรมสมาร์ทฟาร์เมอร์ ได้ทำเกษตรแปลงใหญ่กว่า 5 พันแปลง ถามว่าเกษตรกรมีรายได้มากขึ้นหรือไม่ แตกต่างจากทำแปลงย่อยแบบเดิมอย่างไร เป็นประเด็นที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ต้องหาคำตอบ
นายกฤษฏา ยังกล่าวถึงการจำกัดการใช้สารเคมีอันตราย ว่า สำหรับแผนที่กระทรวงเกษตรฯขับเคลื่อนจะต้องเป็นแผนที่สามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรมและให้สาธารณะชนรับรู้และเอ็นจีโอ เข้าใจอย่างทั่วถึงด้วย ทั้งนี้ตนเครียดมากเนื่องจาก ผอ.กองกฎหมาย ไม่ส่งหนังสือคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจำกัดใช้สารเคมี เรื่องนี้ต้องเร่งติดตามเพราะตนยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว โดยตนบอกหลายครั้งแล้วว่า เจ้าหน้าที่รับผิดชอบ ต้องเดินเรื่องเอง
"ถ้ามีเรื่องผิดพลาดผมไม่ยอม ถามกลับบ้างพวกเราไม่เจ็บปวดหรือที่โดนกล่าวหาว่าสนับสนุนนายทุน ผมสั่งแล้วไม่ใช่ปัดก้นไป ผมได้บอกวิธีทำงานอย่างละเอียดทุกขั้นตอนด้วยอย่างชัดเจนทุกเรื่อง และอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ต้องทำข้อปฏิบัติจำกัดการใช้สารเคมี มาถึงกระทรวง ไม่จำเป็นต้องรอกฎกระทรวง 5ฉบับ ต้องเร่งทำแผนปฏิบัติงานให้ชัดเจน อบรมผู้ใช้ ผู้จำหน่าย จำกัดผู้ซื้อ และส่งให้สาธารณะชน และเอ็นจีโอ ทราบแผนของกระทรวงด้วย ทั้งนี้แผนที่ร่างมากำหนดเวลา พื้นที่ หน่วยงาน ทำเกษตรปลอดภัย(จีเอพี) จำกัดโควตานำเข้า3สารเคมี จำกัดคนจำหน่าย คนใช้ อบรมที่ไหน ให้ชัดๆ ถ้าคนใช้ ไม่ทำตามกติกา จะลงโทษอย่างไร และหาสารที่ดีกว่ามีทดแทนหรือยัง”นายกฤษฏา กล่าว.
