ปช.ชูนโยบาย3,000บาทถ้วนหน้า ผุดรพ.รักษาหนี้
การเมือง
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำแก้ได้โดยนโยบายรัฐสวัสดิการ คือให้สิทธิเสมอกัน พรรคประชาชาติพร้อมผลักดันนโยบาย 3,000 บาทถ้วนหน้า มั่นใจว่าจะมีงบประมาณเพียงพอสำหรับใช้จ่ายตามนโยบาย ทั้งนี้ เรื่องสิทธิเสมอกันเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงสนับสนุนการเป็นรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่สังคมสงเคราะห์ ซึ่งคุ้มค่ากับงบประมาณ อะไรที่ลงทุนกับคนไม่มีคำว่าขาดทุน คนทุกคนต้องมีคุณค่า
ด้านร.ต.อ.นิติภูมิธณัฐ กล่าวว่า พรรคประชาชาติมีความมุ่งมั่นว่า ใครก็ตามที่มีบัตรประชาชน และมีอายุ 60 ปีขึ้นไป รัฐจะมีเงินบำนาญ 3,000 บาท ให้เพื่อเป็นการดูแลผู้สูงวัย พรรคต้องการให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งความกตัญญู นักวิชาการจำนวนหนึ่งบอกจะเอาเงินมาจากไหน ใช้เงินมากเกินไปหรือไม่ แต่เราคิดว่าผู้สูงอายุในวันนี้คือคนที่ใช้เงินมาทั้งชีวิต เสียภาษีมาทั้งชีวิต การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยเฉพาะผู้สูงวัยจึงเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ
ขณะที่นายสุพจน์ อาวาส รองโฆษกพรรค กล่าวว่า พรรคจะตั้งโรงพยาบาลรักษาหนี้ เบื้องต้นจะรับซื้อหนี้ที่มีปัญหามาบริหารจัดการ โดยไม่ให้ผู้ปล่อยกู้เดือดร้อน เพื่อนำหนี้มาพัฒนาเพิ่มมูลค่าเพื่อประโยชน์สูงสุดของเจ้าของหนี้ ผู้กู้ และกลไกของรัฐ เป็นโครงการที่จะไม่ทำให้รัฐเสียหาย ลูกหนี้ได้รับการพักหนี้ เจ้าหนี้ได้เงินคืน และรัฐบาลก็ไม่เสียหาย ถือว่าเป็นโครงการที่ดีกับทุกฝ่าย และได้ประโยชน์ร่วมกัน
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวถึงความมั่นใจของพรรคประชาชาติในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ว่า จนถึงขณะนี้พรรคมีความพอใจกระแสตอบรับที่ดีจากประชาชน เชื่อว่าประชาชนจะตัดสินใจจากการรับฟังนโยบายต่างๆ ของพรรคการเมืองที่ได้สื่อสารกับประชาชน ซึ่งในส่วนของพรรคประชาชาติมีเหตุผลรองรับว่านโยบายทำได้จริงหรือไม่ และเราเชื่อว่าสิ่งที่พรรคได้นำเสนอต่อประชาชนนั้นเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ มั่นใจว่าพรรคประชาชาติจะเป็นพรรคทางเลือกที่สำคัญให้กับประชาชน
ส่วนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลายพรรคการเมืองก็ตั้งคาดหวังว่าจะได้เก้าอี้ส.ส.ด้วยนั้น พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่มีเจ้าของพื้นที่โดยตรง ทุกพรรคจึงเข้าไปเสนอนโยบายได้ ในส่วนของพรรคประชาชาติมีบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ในการแก้ปัญหาภาคใต้ ไม่ใช่เฉพาะปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมปราศรัยกับพรรคพลังประชารัฐที่จ.นราธิวาสด้วย พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีของประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับฟังการปราศรัย เพราะตอนที่ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ทุกหน่วยงานก็ลงไปหาเสียงหาคะแนนให้รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ปรากฏว่าในพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การที่พวกเขาไม่รับร่างนั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่มีความรู้ มีความคิด และมีความเป็นตัวของตัวเอง
"ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน พรรคประชาชาติอยากให้องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความยุติธรรม เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ใช้สองมาตรฐาน เพราะจะเป็นการทำลายประชาธิปไตยและทำลายบรรยากาศต่างๆ และอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดการเลือกตั้งมีอิสระ ยึดหลักกฏหมาย ทำให้ทุกพรรค ทุกคน อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเสมอภาค ไม่เช่นนั้นแม้ว่าบางพรรคการเมืองจะชนะการเลือกตั้ง แต่ก็จะพ่ายแพ้ประชาชน"พ.ต.อ.ทวีกล่าว