ข่าวอาเซียนดันตั้ง'ศูนย์องค์ความรู้ขยะทะเล' - kachon.com

อาเซียนดันตั้ง'ศูนย์องค์ความรู้ขยะทะเล'
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่โรงแรมสุโขทัย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงถึงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเล (Special ASEAN Ministerial Meeting on Marine Debris) ว่า ปัจจุบันทั่วโลกกำลังเผชิญกับขยะที่เคลื่อนจากแผ่นดินออกสู่ชายฝั่งทะเล เป็นสาเหตุให้ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลได้รับความเสียหาย สัตว์ทะเลบาดเจ็บและตาย ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยาทางทะเล เศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนการท่องเที่ยว โดยภาพรวมที่ผ่านมาประเทศในภูมิภาคอาเซียนหลายประเทศถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลมากที่สุดในโลก  ทั้งนี้เรื่องขยะถือเป็นภารกิจพิเศษที่อยู่ในยุทธศาสตร์ของประเทศไทย และบทบาทความร่วมมือกับนานาชาติ ซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งในวาระที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ จึงเป็นโอกาสที่จะได้แสดงบทบาทในการเป็นผู้นำที่จะยกระดับความร่วมมือในการจัดการปัญหาขยะทะเลให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น



รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบต่อเอกสารผลลัพธ์ ซึ่งมี 2 ฉบับ คือ 1.ปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน และเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการที่จะบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาขยะในภูมิภาค 2.กรอบปฏิบัติงานอาเซียนว่าด้วยขยะทะเล เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกันทั้งด้านนโยบายการบริหารที่จะช่วยลดปริมาณขยะทะเล โดยเอกสารทั้ง 2 ฉบับนี้จะถูกนำเสนอเพื่อขอการรับรองในการประชุมระดับผู้นำอาเซียนในเดือนมิ.ย.นี้

พล.อ.สุรศักด์ กล่าวว่า ทั้งนี้ในที่ประชุมแต่ละประเทศได้มีการพูดคุยว่ามีแผนอย่างไรในการลดขยะทะเล ซี่งเวทีนี้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ความใจ และการร่วมมือที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล และจะนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อลดปัญหาดังกล่าว โดยในกรอบปฏิบัติงานว่าด้วยการขยะทะเลอาเซียนจะมีการคุยกันถึงเรื่องต่อชี้วัดว่าต้องมเรื่องใดบ้าง เช่น ประเทศในอาเซียนต้องตั้งเป้าลดการใช้ขยะพลาสติกลงร้อยละ 5 เป็นต้น รวมทั้งมีข้อตกลงในการจัดตั้งศูนย์องค์ความรู้ขยะทะเลในอาเซียน โดยให้ตั้งสำนักงานใหญ่ที่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลเรื่องขยะพลาสติก และขยะทะเลภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งฝ่ายไทยเสนอว่าควรจะมีสาขาของศูนย์ดังกล่าวตั้งอยู่ในบริเวณประเทศลุ่มแม่น้ำโขงด้วย เพราะลุ่มน้ำโขงเป็น 1ใน 10 แม่น้ำสายสำคัญของโลกที่ปล่อยขยะลงสู่ทะเล



พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นในการประชุมกลุ่มประเทศพัฒนาและเศรษฐกิจเกิดใหม่ ( จี 20 ) ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในปีนี้ จะมีการประชุมในวาระพิเศษรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม และผู้นำในกลุ่มอาเซียนได้รับเชิญไปกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมดังกล่าวว่าด้วยความร่วมมือในการจัดการปัญหาขยะทะเลด้วย ส่วนกรณีข้อมูลที่ระบุว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 6 ของประเทศที่ปล่อยขยะลงสู่ทะเลมากที่สุดในโลกนั้น เป็นข้อมูลช่าวเก่าเมี่อปี 2015-2016 ซึ่งในปัจจุบันเราได้ดำเนินการตามแผนจัดการขยะ และลดการใช้พลาสติก โดยเราสามารถลดใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดหรือแคปซีลได้ 520 ตันต่อปี ลดการใช้โฟมได้ร้อยละ 50 ต่อปี รวมทั้งเรายังมีแผนในการยกเลิกการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวภายในปี 2563 และจะมีการรีไซเคิลขยะพลาสติกร้อยละ 100 ในปี 2573 ตลอดจนกว่ายกเลิกนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอต่อครม. จำนวน 422 รายการ เชื่อว่าการบริหารจัดการขยะของประเทศไทยจะมีประสิทธิภาพขึ้นและลดขยะลงสู่ทะเลได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้การจัดอันดับประเทศที่ปล่อยขยะลงสู่ทะเลมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น อันดับหนึ่งคืออินโดนีเซีย ตามด้วย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย.