'วิษณุ'ย้ำ'บิ๊กตู่'พบปชช.ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพปชร.ได้
การเมือง
Webmaster
2019-03-06 14:03:00
15
Webmaster
2019-03-06 14:03:00
15
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะไม่ร่วมเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ เพราะกังวลเรื่องข้อกฎหมาย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มาปรึกษาตนในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอบคำถามของพรรคพลังประชารัฐไปว่าพล.อ.ประยุทธ์สามารถขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงได้ แต่ขอให้ระมัดระวังไม่ให้ขัดกับมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องไม่ใช่ตำแหน่งและอำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งถ้าพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นปราศรัยโดยพูดอยู่ในหลักเกณฑ์ไม่สุ่มเสี่ยง ก็จะไม่มีปัญหา ทั้งนี้แม้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัย แต่สามารถเดินทางไปพบปะประชาชนในฐานะผู้ชิงตำแหน่งนายกฯในนามพรรคพลังประชารัฐได้ โดยจะต้องไม่ใช้ตำแหน่งนายกฯให้คุณให้โทษต่อพรรคการเมือง
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร ลองใช้เกณฑ์มาตรฐานสมัยก่อน ในสมัยนายชวน หลีกภัย ,นายบรรหาร ศิลปอาชา ,นายทักษิณ ชินวัตร ,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อประกาศยุบสภาแล้วเขาทำอย่างไร แต่กกต.ได้ยอมผ่อนปรนให้กับกรณีของพล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคหรือผู้สมัครส.ส. ว่าสามารถทำได้ในบางเรื่องเช่นเดียวกับอดีตนายกฯที่เป็นผู้สมัครส.ส. อาทิ การมีภาพบนป้ายหรือโปสเตอร์หาเสียงของพรรคนั้นๆได้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงไม่ขอแสดงความเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ควรจะยุติการไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ วันนี้มีการใช้วาทกรรมทางการเมืองหลากหลาย อาทิ มีคนกวักมือเรียกพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีดีเบต แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นเวทีปราศรัย ไม่ไปดีเบต ซึ่งมีคนบอกว่าสุ่มเสี่ยงขัดกฎหมาย ดังนั้นสุดท้ายจะตัดสินใจอย่างไรอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์
นอกจากนี้ นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยชูประเด็นปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในการปราศรัยหาเสียงในการเลือกตั้ง ว่า พรรคการเมืองสามารถชูประเด็นเรื่องความจงรักภักดีและสิ่งที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ เพราะเหล่านี้ล้วนเป็นความรู้สึกที่อยู่ในใจของทุกคนอยู่แล้ว และเป็นนโยบายหลักของทุกพรรคการเมืองอยู่แล้ว แต่ถ้าไปบอกว่าพรรคการเมืองอื่นจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตรงนี้เข้าข่ายและสุ่มเสี่ยงขัดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ส่วนตัวไม่ทราบว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยปราศรัยอย่างไรบ้าง แต่ตนเชื่อว่าทุกอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จับตาดูอยู่แล้ว.
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร ลองใช้เกณฑ์มาตรฐานสมัยก่อน ในสมัยนายชวน หลีกภัย ,นายบรรหาร ศิลปอาชา ,นายทักษิณ ชินวัตร ,นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อประกาศยุบสภาแล้วเขาทำอย่างไร แต่กกต.ได้ยอมผ่อนปรนให้กับกรณีของพล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคหรือผู้สมัครส.ส. ว่าสามารถทำได้ในบางเรื่องเช่นเดียวกับอดีตนายกฯที่เป็นผู้สมัครส.ส. อาทิ การมีภาพบนป้ายหรือโปสเตอร์หาเสียงของพรรคนั้นๆได้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงไม่ขอแสดงความเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ควรจะยุติการไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ วันนี้มีการใช้วาทกรรมทางการเมืองหลากหลาย อาทิ มีคนกวักมือเรียกพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีดีเบต แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นเวทีปราศรัย ไม่ไปดีเบต ซึ่งมีคนบอกว่าสุ่มเสี่ยงขัดกฎหมาย ดังนั้นสุดท้ายจะตัดสินใจอย่างไรอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์
นอกจากนี้ นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยชูประเด็นปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในการปราศรัยหาเสียงในการเลือกตั้ง ว่า พรรคการเมืองสามารถชูประเด็นเรื่องความจงรักภักดีและสิ่งที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ เพราะเหล่านี้ล้วนเป็นความรู้สึกที่อยู่ในใจของทุกคนอยู่แล้ว และเป็นนโยบายหลักของทุกพรรคการเมืองอยู่แล้ว แต่ถ้าไปบอกว่าพรรคการเมืองอื่นจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ตรงนี้เข้าข่ายและสุ่มเสี่ยงขัดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ส่วนตัวไม่ทราบว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยปราศรัยอย่างไรบ้าง แต่ตนเชื่อว่าทุกอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จับตาดูอยู่แล้ว.
