ยุบ'ไทยรักษาชาติ'! ฐานทำ'สถาบัน'เสื่อม
การเมือง

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนู ญประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในกรณีคำร้องที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุ บพรรคไทยรักษาชาติตามพระราชบั ญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2561 มาตรา 92 ฐานกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่ อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอั นมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จากกรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรั ฐมนตรี
จากนั้น เวลา 15.00 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนู ญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉั ยในกรณีดังกล่าว ว่า ศาลรัฐธรรมนูญตั้งประเด็นวินิ จฉัย 3 ประเด็น โดยประเด็นแรก พิจารณาแล้วเห็นว่ารัฐธรรมนู ญหมวดหนึ่งได้บัญญัติว่ าพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ตั้ งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไปทรงดำรงอยู่ เหนือการเมือง ตามพระประสงค์ของพระปกเกล้าเจ้ าอยู่หัวที่เคยมีพระราชหั ตถเลขาในเรื่องดังกล่าวไว้ จึงเป็นหลักการขั้นพื้ นฐานของประเพณีการปกครองประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็ นประมุขว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่เหนือการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยที่ 6/2543 ว่า พระบรมวงศานุวงศ์ไม่อยู่ภายใต้ บทบัญญัติที่กำหนดให้ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์มี หน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ดังนั้นการกระทำของพรรคไทยรั กษาชาติในการเสนอชื่อ ในนามพรรคการเมืองเพื่อแข่งขั นกับพรรคการเมืองอื่ นๆในการหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการกระทำที่ย่อมเล็งเห็นได้ ว่าจะเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ให้ พระบรมวงศานุวงศ์ใช้ อำนาจทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลให้ประเพณี การปกครองระบบตามประชาธิปไตยอั นมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้ เสื่อมทรามโดยปริยาย สั่นคลอนคติรากฐานที่ว่ าพระมหากษัตริย์ทรงราชย์แต่ไม่ ได้ทรงปกครอง แม้พรรคไทยรักษาชาติจะมีสิทธิ ดำเนินกิจการทางการเมืองแต่ต้ องอยู่บนความตระหนักว่ าการกระทำนั้นต้องไม่ย้อนกลั บมาทำลายหลั กการของการปกครองระบบตามประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็ นประมุขเสียเอง
ดังนั้นเมื่อการกระทำ ทษช. มีหลักฐานชัดเจนว่าได้ กระทำไปโดยรู้สำนึก จึงเป็นการนำสมาชิกชั้นสูงเป็ นฝักฝ่ายทางการเมือง เข้าลักษณะการกระทำ 92 ชัดแจ้ง จึงมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตามมาตรา 92 วรรค 2 และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลื อกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค โดยเห็นว่าควรกำหนดเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมี คำสั่ง เพราะเป็นการกระทำที่อาจจะเป็ นปฏิบักษ์ยังไม่ถึงขั้นร้ ายแรงจนเป็นการล้มล้างการปกครอง
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ได้แก่
1.ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค
2.นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค
3.น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรค
4.นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรค
5.นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรค
6.นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค
7.นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค
8.นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค
9.นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค
10นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค
11.น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค
12.นายพงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค
13.นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค
จากนั้น เวลา 15.00 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนู
ดังนั้นเมื่อการกระทำ ทษช. มีหลักฐานชัดเจนว่าได้
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ได้แก่
1.ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค
2.นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค
3.น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรค
4.นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรค
5.นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรค
6.นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค
7.นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค
8.นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรค
9.นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค
10นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค
11.น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค
12.นายพงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค
13.นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค